TIPH เคาะจ่ายปันผล 1.30 บาท-อนุมัติตั้ง บริษัท TIPXx รุกลงทุนธุรกิจอื่น

ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกาศจ่ายปันผล 1.30 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 14 มิ.ย.65 พร้อมจัดตั้งบริษัท ‘ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล’ บริษัทเรือธงแห่งที่ 3 รุกลงทุนในธุรกิจรับเทรนด์อนาคต ทำกำไรสูง

วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1.30 บาทต่อหุ้น สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มิถุนายน 2565 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น TIPH ในวันที่ 24 มิถุนายน 2565

ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่งบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ของ TIPH มีรายได้ และกำไรสุทธิแล้ว

ดร.สมพร กล่าวต่อว่า “ผมยังคงยืนยันว่านโยบายในการดำเนินธุรกิจของ TIPH นั้น ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลที่มีเสถียรภาพ และมั่นคงในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท”

ซึ่งผมเชื่อว่าการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ในครั้งนี้ของบริษัทจะช่วยตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจของเราได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ด้วยกฎเกณฑ์ทางกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทในเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา

ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่สามารถอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ได้ เนื่องจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการจัดการของ TIPH เพิ่งแล้วเสร็จในวันที่ 7 กันยายน 2564 ทำให้งบการเงินเฉพาะกิจการในปี 2564 ของ TIPH ยังคงไม่มีกำไรสุทธิ”

ในคราวเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ TIPH ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (TIPXx) เป็นบริษัทเรือธง (Flagship Company) แห่งใหม่ ในกลุ่มธุรกิจอื่น (Other Business) เพื่อเข้าถือหุ้น และลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์ของธุรกิจในโลกอนาคต นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ด้วยทุนจดทะเบียนตั้งต้น 10 ล้านบาท โดยมี TIPH ถือหุ้น 100%

ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (TIPXx) ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจ และการจัดโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของ TIPH ที่ได้มีการแบ่งแยกกลุ่มธุรกิจอย่างชัดเจน และแต่ละกลุ่มธุรกิจจะมีการจัดตั้งบริษัทเรือธง (Flagship Company) ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในแต่ละกลุ่มธุรกิจ

โดยที่ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจของ TIPH ประกอบด้วย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจสนับสนุนธุรกิจประกันภัย (Insurance Supported Business) ซึ่งมีบริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด (TIP ISB) เป็น Flagship Company

2.กลุ่มธุรกิจประกันภัย (Insurance Business) ซึ่งมีบริษัท ทิพย ไอบี จำกัด (TIP IB) เป็น Flagship Company และล่าสุด 3.บริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (TIPXx) จะเข้ามาเป็น Flagship Company ในกลุ่มธุรกิจอื่น (Other Business) ซึ่ง TIPH มีนโยบายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอื่นดังกล่าว ในสัดส่วนไม่เกิน 25% ของสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ

โดยบริษัท TIPXx ที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ จะลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยมีนโยบายที่จะลงทุนในธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรที่ชัดเจน และเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับ TIPH ได้

พร้อมทั้งสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น โดยในเบื้องต้น บริษัทมีแผนที่จะนำ TIPXx ลงทุนในธุรกิจทางการเงิน (Finance) และวางแผนที่จะศึกษาความเป็นได้ในธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตควบคู่กันไป โดยจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์ของธุรกิจในโลกอนาคต ได้แก่ Future Trend Biz, Health Tech, Fin Tech, DeFi และ Digital Platform เป็นต้น

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทลูกต่างๆที่อยู่ภายใต้ บริษัทเรือธง (Flagship Company) ทั้ง 3 แห่งของ TIPH ได้แก่ TIP ISB, TIP IB และ TIPXx ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในธุรกิจนั้นๆอย่างแท้จริง นอกจากจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับวงการประกันภัยในประเทศไทยแล้ว จะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นของ TIPH ในระยะยาวได้ จากการที่บริษัทลูกทุกบริษัทมีเป้าหมายร่วมกันคือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 5 ปี” นายสมพร กล่าว