อัยการจี้ไกด์เตือนรอบคอบเคารพกฎหมาย หลังกระแส “ออเจ้า” ฟีเวอร์

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” ระบุว่า “ขึ้นไปนั่งบนพระพุทธรูป ผิดอะไร?”

“ผมนั่งดูข่าว ปรากฏข่าวนักท่องเที่ยวขึ้นไปนั่งบนพระพุทธรูปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และข่าวบอกว่าให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรไปแจ้งความดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวแล้ว เกิดคำถามขึ้นมาทันทีเพราะตามข่าวไม่ได้บอกว่าไปแจ้งความผิดในข้อหาใด เนื่องจากการกระทำแบบนี้ยากที่จะพบเห็นและไม่ได้เกิดขึ้นนานมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าเราไปเปิดกฎหมายอาญา จะมีความผิดเกี่ยวกับศาสนา มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุสถาน อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ช่วงนี้กระแสบุพเพสันนิวาสแรง ออเจ้าทั้งหลายคงจะนิยมกลับมาสวมใส่ชุดไทยเหมือนวัยรุ่นญี่ปุ่นสวมใส่กิโมโนอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งผมก็มั่นใจว่าโอกาสที่คนไทยจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำผิดเกี่ยวกับศาสนาโบราณสถานคงมีน้อยมากๆ เพราะเราถูกอบรมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ปัญหาคือนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียมากกว่าที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย และแทบจะไม่มีทางรู้กฎหมายไทยเกี่ยวกับเรื่องความผิดต่อศาสนาที่กระทำต่อพระพุทธรูป วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เราสามารถป้องกันได้ เหมือนกับเราเดินทางไปต่างประเทศ เราก็ไม่ทราบวัฒนธรรมและความเคารพในสถานที่ต่างๆ ของประเทศเขา มัคคุเทศก์หรือไกด์จะเตือนจะบอกเรา

“ทางแก้ในเรื่องนี้คือมัคคุเทศก์หรือไกด์คนไทยที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวชมตามโบราณสถาน จะต้องตระหนักรู้และแจ้งเตือนมิให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกระทำละเมิดผิดกฎหมายเกี่ยวกับศาสนา เช่น พระพุทธรูป วัตถุสถานอันเป็นที่เคารพ

“อย่างไรก็ตาม รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้ในลำดับที่สองของประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวเดินทางไปทั่วประเทศ จึงเป็นการนำรายได้ไปสู่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง แล้วยังเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่ดีงามพร้อมรายได้เข้าสู่ประเทศ มัคคุเทศก์และบริษัทท่องเที่ยวจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำความเข้าใจที่ดี ไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายแก่ทุกฝ่าย” เฟซบุ๊กระบุ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์