ทนายอนันต์ชัย เปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ เสรีพิศุทธ์เอาผิด ปมตั้ง ผบ.ตร.

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ทนายอนันต์ชัย เปิด”บิ๊กเซอร์ไพรส์แรก” เสรีพิศุทธ์ ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.เอาผิดตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 14 ยันเป็นทนายความ “บิ๊กโจ๊ก” แม้ไม่มีหนังสือแต่งตั้ง และไม่เคยรับเงิน 10 ล้าน เผยคนในรัฐบาล โทร.ล็อบบี้ไม่ให้สัมภาษณ์ แต่ห้ามไม่ได้

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ แถลง “Super Big Surprise” วงการสีกากี โดยระบุได้รับมอบอำนาจจากผู้ใหญ่ให้มายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช. ส่วนจะเป็นหนังสือเรื่องใดนั้น จะรอให้ผู้ใหญ่ท่านดังกล่าวมาเปิดเผยเอง โดยเบื้องต้นบอกเพียงว่านี่เป็นเพียงปฐมบทเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะยื่นต่อจากนี้

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

สำหรับสาเหตุที่ตนมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ในวันนี้ เพราะในช่วงที่ตนได้ช่วยเหลือเรื่องคดีความของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ “บิ๊กโจ๊ก” และลูกน้องทั้ง 8 นาย ได้มีสายโทรศัพท์จากคนในรัฐบาล โทร.มาหา เพื่อห้ามตนและบิ๊กโจ๊กไม่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งแม้จะสามารถห้ามบิ๊กโจ๊กได้ แต่ห้ามตนไม่ได้ เพราะตนมีหน้าที่ในการเปิดเผยความจริง ในฐานะทนายความ และผู้ใหญ่ที่ตนเชิญมาในวันนี้ไม่มีใครสามารถห้ามได้เช่นกัน

ส่วนประเด็นที่บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่มีการแต่งตั้งทนายนั้น ถูกต้องแล้ว เนื่องจากการเป็นทนายความให้ ไม่จำเป็นต้องทำใบแต่งตั้ง ตอนนั้นตนได้รับคำขอให้ช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้จริง แต่ตอนนี้ตนไม่ได้ทำหน้าที่ทนายให้แล้ว พร้อมทั้งยังกล่าวอีกว่า แม้ว่า “ฮ่องเต้” หรือหัวเรือใหญ่ในการยื่นเรื่องจะไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก แต่ความสัมพันธ์ต่อกันยังดีอยู่

ส่วนในเรื่องที่มีคนกล่าวว่า ตนได้ค่าทำคดีมา 5 ล้านบาท ตนขอสาบานต่อหน้าฟ้า ว่าไม่เคยรับแม้แต่บาทเดียว และทุกครั้งที่ทำคดี ในฐานะประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ช่วยเหลือพระศาสนา ใช้เงินตัวเองตลอด ทนายอนันต์ชัย ได้ทิ้งท้ายถึงคนที่ห้ามตนว่า ถ้าวันนั้นไม่มีสาย โทร.เข้ามาห้าม ก็จะไม่มีการยื่นหนังสือในวันนี้ โดยเมื่อให้สัมภาษณ์สื่อเสร็จ ทนายอนันต์ชัยได้หลุดชื่อของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ออกมา ซึ่งล่าสุดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้เดินทางมาถึงด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ต่อมาพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายอนันตชัย ยื่นหนังสือ ป.ป.ช. ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. และกรรมการ ก.ตร 9 คน ที่มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ในฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง.(4) มีหลักการให้การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ ความสามารถประกอบกัน แต่นายกรัฐมนตรีกลับเสนอชื่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นรอง ผบ.ตร. ที่มีอาวุโสเป็นลำดับที่ 4 ให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา และกรรมการ ก.ตร.ทั้ง 9 ก็ให้ความเห็นชอบ จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงทนไม่ได้ ต้องมาร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งอยากให้ทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว หากพบว่าเป็นการกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ป.ป.ช.จะต้องส่งให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ดำเนินการต่อไป และถ้าผิดก็ต้องมีการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี

“ก่อนหน้านี้เคยเตือนคุณเศรษฐาไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ฟัง แล้วผมจะมีไมตรีทำไม เพราะคุณเป็นคนทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณเป็นคนเสนอ ถึงคุณงดออกเสียง แค่คุณเสนอก็ผิดแล้ว เพราะเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่เสนอคนอื่นจะลงมติได้อย่างไร“ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่า การออกมายื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.เป็นการทำเพื่อองค์กรตำรวจ ไม่ได้ทำเพื่อใคร เพราะพลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่อาวุโสอันดับ 1 ก็เงียบไม่ต่อสู้เพื่อตัวเอง ไม่รู้จะเป็นทำไมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่มีความกล้าหาญเลย ถ้าตนเป็นรอง ผบ.ตร.เบอร์ 1 ตนฟ้องแล้ว

ซึ่งพลตำรวจเอกรอยควรไปร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และถ้าตนเป็น ผบ.ตร.จะตั้งพลตำรวจเอกรอย ให้เป็น ผบ.ตร.คนต่อไป เพราะทำแบบนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเงียบสงบ ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมามีการเมืองมาแทรก นายกฯก็เข้ามายุ่ง ทั้งที่ไม่ควร จึงทำให้องค์กรตำรวจเกิดปัญหา

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีนายอนันตชัยถูกบุคคลในรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้พูดว่า เพราะนายอนันตชัยไม่ใช่พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ ใครก็มาสั่งตนไม่ได้ คนในรัฐบาลไม่ควรทำแบบนี้ ทำเหมือนไม่รู้ว่าสิ่งนี้ผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่ากรณีแบบนี้เข้าข่ายใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงทางคดีหรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ต้องดูว่าถ้าเป็น สส.ก็มีความผิด ซึ่งนายอนันตชัยไม่ใช่ข้าราชการประจำ ความจริงสามารถพูดคุยขอร้องก็ได้แล้ว แต่ถ้าใช้การข่มขู่ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย

ด้านนายอนันตชัยระบุว่า หลังจากนี้แล้วตนจะไปดำเนินการในเรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยจะฟ้องข้อหา ม.112 กับผู้แต่งตั้ง เนื่องจากมีการเสนอแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย