ผบ.ทอ.จ่อใช้อุปกรณ์พิเศษสกัด “โดรน” ในเขตห้ามบิน หลังมีคนลอบถ่ายคลิปมุมสูง

จากโดรนพื้นที่สนามบินจากมุมสูงกว่า 3 พันฟุต เสี่ยงอันตรายเครื่องบินโดยสาร

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. กล่าวถึงกรณีมีบุคคลนำคลิป ซึ่งถ่ายบริเวณสนามบินของกองทัพอากาศเป็นภาพมุมสูงจากโดรน ไปเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ในฐานะที่กองทัพอากาศ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง คงยอมไม่ได้ที่จะให้มีการละเมิดกฎหมาย และถ้าตรวจพบไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม จะต้องดำเนินการเพื่อให้มีการจับกุมเกิดขึ้น

ซึ่งอำนาจการจับกุมอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยฝ่ายกฎหมายของกองทัพอากาศได้ทำการตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ แล้ว พบว่าคลิปดังกล่าวเป็นการเผยแพร่ความลับทางราชการ มีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองความลับในราชการ พ.ศ.2483 ซึ่งกองทัพอากาศได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.อ.อ.จอม กล่าวต่อว่า ส่วนในกรณีที่มีบุคคลโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ตรวจพบโดรนสีขาวขณะบินออกจากสนามบินดอนเมืองที่ระยะสูงประมาณ 3,000 ฟุต ซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องบินอย่างมาก อาจสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล จนถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตของประชาชน กองทัพอากาศขอชี้แจงว่า ตามมาตรา 24 ของพ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 กระทรวงคมนาคมได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาต และเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยาน ที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ.2558

การบินโดรนดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2496 มาตรา 79 โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิด

Advertisment

ผบ.ทอ. กล่าวว่า กองทัพอากาศก็มีความกังวล และห่วงใยความปลอดภัยด้านการบินบริเวณสนามบินต่างๆ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเรื่องดังกล่าวในบริเวณสนามบิน

ทั้งนี้ กองทัพอากาศเตรียมยุทโธปกรณ์พิเศษเพื่อยับยั้ง มิให้โดรนสามารถมาบินในเขตห้ามบินได้ และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ปัญหาเกี่ยวกับโดรน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านการบิน

นอกจากนั้น ตามพ.ร.บ.เดินอากาศฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกากล่าวเรื่องนี้ไว้ชัดเจน การขึ้นทะเบียนและการอนุญาตให้บินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ดังนั้นกระทรวงกลาโหมต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาความมั่นคง ตลอดจนลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

 

Advertisment

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์