“ผู้ว่าฯอัศวิน” ตรวจเช็คความพร้อมโรงพยาบาลสนาม เผย มี 4 แห่งพร้อมรับผู้ป่วยโควิด 1,250 เตียง เตรียมปรับอาคารกีฬาเวสน์ดินแดง ประสานโรงแรมฝั่งธนฯและพระนครปรับพื้นที่รองรับเพิ่ม
วันที่ 10 เมษายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของการเตรียมสถานที่เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ณ บริเวณศูนย์แพทย์ศาสตร์และการเรียนรู้เพื่อผู้สูงอายุ ซอยโรงเรียนโชติการ (ฝั่งตรงข้ามวัดศาลาแดง) ถนนเลียบคลองปทุม เขตทวีวัฒนา
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจงใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชนได้
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า กทม.ได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 4 แห่ง ประกอบด้วย
- โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 500 เตียง
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตทวีวัฒนา รองรับได้ 200 เตียง
- สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน เขตบางบอน รองรับได้ 200 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้วันที่ 13 เม.ย.2564
- ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก รองรับได้ 350 เตียง (อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานที่)
นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสถานที่ต่าง ๆ ที่จะสามารถเป็นโรงพยาบาลสนามได้เพิ่มเติมด้วยหากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น
“กรณีมีข่าวว่าผู้ป่วยไม่มีเตียงนั้น ในส่วนของ กทม.ยังมีเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ หากมีการประสานมากทม.ก็ยินดีรองรับผู้ป่วยมาดูแล ซึ่ได้จัดเตรียมสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมกรณีมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น อาทิ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกทม.เขตดินแดง รวมถึงมีการประสานกับบางโรงแรมเพื่อทำเป็น Hospitel ไว้บ้างแล้วบริเวณย่านฝั่งธนบุรี และฝั่งพระนคร”
ปัจจุบัน กทม.ได้มีการออกสอบสวนโรคเชิงรุกและวางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอยู่ 2 ที่ ได้แก่ บริเวณลานกีฬาแสงทิพย์ และวัดนิมมานรดี โดย กทม.ได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มข้น
ประกอบกับมีประกาศสั่งจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครสั่งปิดสถานบันเทิงทั่ว กทม.
รวมถึงหากประชาชนใช้ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A ได้แก่ D – Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น M – Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H – Hand washing ล้างมือบ่อย ๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ T – Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการที่อาจไม่สบาย
T – Testing ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และ A ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกครั้ง และละเว้นการสาดน้ำหรือเล่นน้ำสงกรานต์จะสามารถช่วยควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้
นอกจากนี้สำนักการแพทย์ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมการแพทย์ กลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์ และโรงพยาบาลเอกชน จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 3,000 กว่าเตียง รวมกับของกทม.แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 เตียง
และมีการประสานกับภาคีเครือข่ายจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมเป็นระยะ รวมถึงแนวทางการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่บริเวณแจ้งวัฒนะด้วย คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 10,000 เตียง
สำหรับโรงพยายาลราชพิพัฒน์จะรองรับผู้ป่วยสีเหลือง ที่มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่วนผู้ป่วยสีแดง จะทำการดูแลรักษาที่โรงบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลสิรินธร ถ้ารวมเตียงทั้งหมดสำหรับผู้ป่วยสีแดงและสีเหลือง มีเกือบ 900 เตียง
สำหรับโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการสำหรับผู้ป่วย COVID-19 ที่ไม่มีอาการ จำนวน 200 เตียง เมื่อผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นระดับปานกลางถึงหนักจะส่งตัวรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งเปิด Cohort ward มีทีมแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยสำหรับรักษาผู้ป่วย COVID-19 และย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ ตามอาการต่อไป
ปัจจุบันโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษา จำนวน 28 คน เป็นคนไทย 16 คน คนต่างด้าว 12 คน โดยมีการดูแลรักษาตามมาตรฐานด้วยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลราชพิพัฒและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจของสำนักการแพทย์