กทม. ติดโควิดทุกเขตวันนี้ “จอมทอง” มากสุด ยังว่าง 1,200 เตียง

Lillian SUWANRUMPHA / AFP

กทม.โควิดพุ่ง 739 ราย กระจายทุกเขต “จอมทอง”มากสุด 30 ราย เร่งสำรวจผู้ป่วยตกค้างต่อเนื่อง เผยยังมีเตียงว่า 1,200 เตียง คุมเข้มสูงสุดร้านอาหาร สถานที่เสี่ยงถึง 9 พ.ค.นี้ เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนแล้ว

วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 วันนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 739 ราย กระจายทั้ง 50 เขต

ส่วนใหญ่เป็นการเชื่อมโยงความเสี่ยงจากการรับเชื้อ จากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน การไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว การไปสถานที่แออัด เช่น งานแฟร์ คอนเสิร์ต เป็นต้น

ศูนย์เอราวัณไม่มีผู้ป่วยตกค้าง

ทั้งนี้ กทม.ได้ดำเนินการคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาและตรวจสอบผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษาหรือเป็นผู้ป่วยตกค้างในพื้นที่กทม.โดยให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำรวจและค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อที่ตกค้างภายในพื้นที่

พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลประวัติและคัดกรองโรคเบื้องต้น และนำส่งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันส่งต่อให้ศูนย์เอราวัณ เพื่อให้ศูนย์เอราวัณทำการโทรประสานเพื่อตรวจสอบและคัดกรองระดับการติดเชื้อของผู้ป่วยก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้รวดเร็วขึ้น โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ศูนย์เอราวัณ 1669 ได้นำส่งผู้ป่วย 192 ราย และไม่มีผู้ป่วยรอนำส่งเข้าระบบการรักษาตกค้าง

เปิดยอดโผเตียงว่าง

สำหรับจำนวนผู้ป่วยครองเตียงในโรงพยาบาลสังกัด กทม. โรงพยาบาลสนาม กทม. และ Hospitel มีจำนวนทั้งสิ้น 1,291 ราย ส่วนวันที่ 1 พ.ค. ยังมีเตียงว่าง 1,200 เตียง

โดยโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้ง 8 แห่ง มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 207 เตียง โรงพยาบาลสนาม กทม. ปัจจุบันมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วย จำนวน 1,700 เตียง มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 926 เตียง ยังว่างอยู่ 774 เตียง

ประกอบด้วย รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 1,000 เตียง ครองเตียง 493 เตียง ยังว่างอยู่ 507 เตียง รพ.ราชพิพัฒน์ 200 เตียง ครองเตียง 84 เตียง ยังว่างอยู่ 116 เตียง รพ.เอราวัณ 1 (ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางบอน) 100 เตียง ครองเตียง 44 เตียง ยังว่างอยู่ 56 เตียง และ รพ.เอราวัณ 2 (บางกอกอารีนา) 400 เตียง ครองเตียง 305 ยังว่างอยู่ 95 เตียง

และในส่วนของ Hospitel จำนวน 5 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 584 เตียง มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 158 เตียง ยังว่างอยู่ 426 เตียง ได้แก่ รพ.กลาง 44 เตียง ครองเตียง 26 เหลือ 18 เตียง รร.เออริเเกนแอพอร์ต 120 เตียง ครองเตียง 64 เหลือ 56 เตียง รร.บ้านไทยบูทีค 300 เตียง ครองเตียง 9 เหลือ 291 เตียง รร.ข้าวสาร พาเลส 80 เตียง ครองเตียง 38 เหลือ 42 เตียง และอาคารพัชรกิติยาภา ม.นวมินทราชูทิศ 40 เตียง ครองเตียง 21 เหลือ 19 เตียง

คุมเข้มสูงสุดร้านอาหาร-สถานที่เสี่ยงถึง 9 พ.ค.

นอกจากนี้ ตามที่ ศบค. ได้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยปรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็น 1 ใน 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งกทม.มีมติให้ยกระดับมาตรการควบคุม

โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.

ปิดให้บริการสนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ยกเว้น สถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ประเภทกลางแจ้งหรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม

ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน เปิดดำเนินการได้เวลา 04.00 – 23.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 9 พ.ค.นี้

เปิดลงทะเบียนรับวัคซีนผ่าน Line OA “หมอพร้อม”

ปลัดกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังได้ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่กลุ่มเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา โดยกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนและดำเนินการฉีดไปแล้ว คือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด่านหน้าและมีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย กลุ่มผู้ที่มีอยู่ในกลุ่มโรคเสี่ยง 7 โรค และกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง

ทั้งนี้ ประชาชนผู้สูงอายุที่มีอายุ 60ปี ขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังที่ประสงค์รับวัคซีนให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น Line Official Account (Line OA) “หมอพร้อม V.2” ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนพร้อมกันวันนี้ ( 1 พ.ค. 64) และเริ่มรับบริการฉีดวัคซีน 7 มิ.ย.เป็นต้นไป

โดยสามารถเลือกรับบริการได้ ณ โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา โดยประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (นับถึงวันที่ 1 ม.ค. 65) และบุคคลที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรงทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะ 5 โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน

สำหรับประชาชนทั่วไปอายุระหว่าง 18 – 59 ปี นั้น จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือน ก.ค.นี้และเริ่มรับบริการฉีดวัคซีนในเดือน ส.ค.เป็นต้นไป