ผลชันสูตรเบื้องต้น หญิงวัย 39 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสลับชนิด 1 วัน

นายแพทย์เฉวตสรร
นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

สธ. เผยผลชันสูตรเบื้องต้น กรณี ครูวัย 39 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสลับชนิด “ซิโนแวค-แอสตร้าฯ” พบเลือดกดทับก้านสมอง นำพิจารณาต่อ เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีครูสอนพิเศษ เพศหญิง วัย 39 ปี เสียชีวิตขณะอยู่ในบ้านพัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสามีของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ก่อนหน้าที่เสียชีวิต 1 วัน ภรรยาได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนเข็มที่ 2 หลังจากเคยได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรกไปแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุในการแถลงของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ถึงกรณีดังกล่าวว่า มีการผ่าชันสูตร รายงานผลเบื้องต้น พบสาเหตุการเสียชีวิตจากอาการสมองบวม จากก้อนในสมอง และทำให้เลื่อนไปกดแกนสมอง จึงทำให้เสียชีวิต

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีการนำรายละเอียดไปประกอบกับหลักฐานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว สถานะสุขภาพอื่น ๆ มาพิจารณาว่า การเสียชีวิตมีความเกี่ยวข้องการกับฉีดวัคซีนหรือไม่ เป็นลำดับต่อไป

ก่อนหน้านี้ (21 ก.ค.) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวเช่นกัน ระบุว่า ขณะนี้ฉีดสลับชนิดแล้วมากกว่า 8.4 หมื่นคน โดยกรณีนี้เป็นรายแรกที่เสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน ยังต้องหาสาเหตุต่อไป โดยแพทย์ตรวจเบื้องต้นและชันสูตรที่ รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี

“ขณะนี้ยังไม่สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน จะนำข้อมูลที่ตรวจสอบแล้วและมีข้อมูลเพียงมานำเสนอ แต่ที่จะสรุปคือ วัคซีนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดในประเทศไทย เป็นวัคซีนที่พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูงจากการที่ฉีดมากกว่า 10 ล้านโดส เพียงแต่รายนี้เป็นการฉีดสลับชนิดและเกิดเหตุการณ์เสียชีวิต ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้ง ส่วนผลการสรุปจะมีการเรียนให้ทราบต่อไป” นายแพทย์โสภณกล่าว