คมนาคม สปีดสะพานบึงกาฬ-บอลิคำไซ-ขยาย 4 เลน หนุนท่องเที่ยว

คมนาคม เร่งก่อสร้างโครงการสะพานไทยลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) และทล. 212 ช่วงโพนพิสัย-บึงกาฬ เชื่อมไทยลาว หนุนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม-การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน-โลจิสติกส์อาเซียน คาดเปิดให้บริการปี 2567

วันที่ 12 มีนาคม 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะ จ.บึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว

ล่าสุด สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) มีความคืบหน้า ดังนี้

1.โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) พร้อมโครงข่าย เป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS)

ดำเนินการโดย สำนักบริหารโครงการทางหลวงระหว่างประเทศ ทล. รวมระยะทาง 16.18 กิโลเมตร แบ่งเป็นถนนฝั่งไทย ระยะทาง 13 กิโลเมตร และถนนฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 3.18 กิโลเมตร

การออกแบบโครงสร้างได้นำเสาหลักของสะพาน (Pylon) มาประยุกต์ระหว่างโครงสร้างกับ “แคน” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีท้องถิ่น เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมของชุมชนในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

โดยรูปแบบการก่อสร้างเป็นสะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร มีไหล่ทางพร้อมทางเท้า ช่วงข้ามแม่น้ำโขง ระยะทาง 810 เมตร และงานทางลาดลงจากตัวสะพาน ความยาวถนนฝั่งไทย 410 เมตร ฝั่ง สปป.ลาว ความยาว 130 เมตร รวมความยาวสะพานทั้งหมด 1,350 เมตร

มีด่านควบคุมทั้ง 2 ฝั่งประเทศ และมีจุดสลับทิศทางจราจรอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว วงเงินก่อสร้าง 3,930 ล้านบาท

ผลงานในภาพรวมของโครงการ (ณ 28 ก.พ. 65) มีความคืบหน้ารวม 36.704% เร็วกว่าแผน 0.643% คาดว่าจะเชื่อมต่อพื้นที่สะพานได้ประมาณกลางปี 2566 เปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2567 โดยโครงการนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

– ส่วนที่ 1 งานก่อสร้างถนนฝั่งไทย ช่วง กม. ที่ 0+000 – 9+400 วงเงิน 831 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 16 ธันวาคม 2565 มีความคืบหน้า 50.903% เร็วกว่าแผน 1.378% คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด

– ส่วนที่ 2 งานก่อสร้างถนนฝั่งไทยและด่านพรมแดนฝั่งไทย ช่วง กม. ที่ 9+400 – 12+082.930 วงเงิน 883 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 13 มีนาคม 2566 มีความคืบหน้า 41.366% ช้ากว่าแผน 2.733%

– ส่วนที่ 3 งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย รวมงานปรับปรุงสี่แยกทางหลวงหมายเลข 212 และลานอเนกประสงค์ใต้สะพาน แบ่งเป็น ฝั่งไทย ช่วง กม. ที่ 12+082.930 – 13+032.930 วงเงิน 787 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 มีความคืบหน้า 18% ช้ากว่าแผน 2.77% และฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 0.535 กิโมเมตร วงเงิน 379 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 3 มกราคม 2567 มีความคืบหน้า 25.21% เร็วกว่าแผน 8.11% ในส่วนของงานถนนและด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาว มีความคืบหน้า 40.78% เร็วกว่าแผน 3.52%

ทางหลวงหมายเลข 212 สายอำเภอโพนพิสัย – บึงกาฬ ตอนตำบลหอคำ – บึงกาฬ

ขยาย 4 เลน ทล.212 คืบ 46.15%

2.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 สายอำเภอโพนพิสัย – บึงกาฬ ตอนตำบลหอคำ – บึงกาฬ ช่วง กม. ที่ 108+984.000 – 125+416.103 และ กม. ที่ 126+694.399 – 127+189.000 รวมระยะทางประมาณ 16.926 กิโลเมตร

โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 ทล. รูปแบบการก่อสร้างเป็นการขยายช่องจราจรจากเดิม 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร วงเงิน 631,541,500.00 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 930 วัน เริ่มต้นสัญญาตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 26 มกราคม 2566 โดยบริษัท พระนครศรีอยุธยาพาณิชย์และอุตสาหกรรม จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565 โครงการมีความคืบหน้ารวม 46.150% เร็วกว่าแผนงาน 0.867%

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เมื่อโครงการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยและ สปป.ลาว ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โดยทางหลวงหมายเลข 212 สายอำเภอโพนพิสัย – บึงกาฬ จะเป็นทางผ่านไปสู่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) ทำให้เส้นทางดังกล่าวเป็นการคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว และภูมิภาคอาเซียนได้ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน รวมถึงสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economics Community: AEC)

นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอีกด้วย