ผู้สื่อข่าว’ประชาชาติธุรกิจ’รายงานว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ (4เมษายน2561) นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์กรุ๊ป ผู้ถือหุ้นใหญ่ดีแทค ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการเข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันเดียวกัน
โดยนายซิกเว่ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ (4 เม.ย. 2561) ได้พบกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โดยได้ประชุมหารือ 3 ประเด็นใหญ่ ๆ ได้แก่
1.ดีแทคจะมีส่วนในการส่งเสริมโครงการดิจิทัล พาร์ค ใยเขตเศรษฐกิจพิเศษ Eastern Economic Corridor (EEC) ว่าบริษัทจะช่วยส่งเสริมในด้านใดได้บ้าง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
2.เรื่องการลงนามสัญญาการเป็นพันธมิตรคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) กับบมจ.ทีโอที ที่มองว่าดีลนี้มีประโยชน์ต่อทีโอที ประเทศชาติ และผู้บริโภค โดยจะช่วยดูในเรื่องของขั้นตอนการอนุมัติต่าง ๆ และส่วนที่เกี่ยวข้อง
และ3.แนวทางของกสทช. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการประมูลคลื่นครั้งใหม่ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเเบ่งเป็น 5 MHz 9 ใบอนุญาต ตามที่เคยเปิดฟังความคิดเห็นหรือจะกลับไปแบ่งเป็น 15 MHz 3 ใบอนุญาต เพราะโดยส่วนตัวมองว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้หากกลับไปใช้รูปแบบเดิม
นายซิกเว่กล่าวด้วยว่าเทเลนอร์ยังแสดงถึงความพร้อมและยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง เพราะไทยเป็นประเทศที่สำคัญของเทเลนอร์ โดยปัจจุบันทำรายได้มากเป็นอันดับสองรองจากนอร์เวย์แม้ว่าดีแทคจะตกอยู่ในสถานะอันดับสามในตลาดมือถือจากที่เคยอยู่ที่สองมาก่อน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ตนพอใจนัก แต่ส่วนหนึ่งมาจากการปรับแผนการตลาดที่เคยเน้นการทำตลาดบริการพรีเพดมาเป็นเน้นโพสต์เพดหรือแบบรายเดือนมากกว่า
