“อินโนสเปซ” ปักธงการลงทุนสตาร์ตอัพปี 2567 วงเงิน 105 ล้านบาท โฟกัสกลุ่ม “Deep Tech” เป็นหลัก พร้อมสร้างความร่วมมือมหาวิทยาลัย-หน่วยงานรัฐ เชื่อมอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัพให้แข็งแรง หวังปั้นยูนิคอร์นตัวใหม่ในไทย
วันที่ 15 มีนาคม 2567 นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานคณะกรรมการ บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทได้มีการลงทุนในสตาร์ตอัพเพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ รีคัลท์ (Ricult) และยูนิฟาร์ส (UniFAHS) รวมถึงสร้าง Synergy กับ Limited Partners (LP) ไป 2 โครงการ และขยายความร่วมมือกับ Accelerator ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้สตาร์ตอัพไทยได้ไปศึกษาตลาดและการทำงานในต่างประเทศ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“เรายังลงทุนร่วมกับกองทุนอินโนเวชั่น วัน (Innovation One) ที่บริหารโดยสภาอุตสาหกรรม ในบริษัท UniFAHS ที่มีเทคโนโลยีเชิงลึกด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืนตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจไปกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมด้านการเกษตรในอนาคต”
นายนฤศันส์ ธันวารชร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในปี 2566 บริษัทได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งมหาวิทยาลัยและหน่วยงานทางด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ในแต่ละภูมิภาค
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (PMU-C) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA) สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นต้น เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและสนับสนุนอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัพของไทย
โดยในช่วงต้นปี 2567 มีสตาร์ตอัพในพอร์ตฟอลิโอของเราที่ได้ไปเข้าร่วมโปรแกรมที่ประเทศฮ่องกง 2 ราย และในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายการลงทุนในกลุ่ม Deep Tech เพิ่มอีก 105 ล้านบาท แบ่งเป็น Early Stage 30 ล้านบาท, Pre-Series A 30 ล้านบาท, Series A 10 ล้านบาท และ Series B 35 ล้านบาท
“เราพบว่ากว่า Deep Tech Startup จะเติบโตจากระยะ Seed แล้วเข้าสู่ Series D ที่โตมาก ๆ ต้องใช้เวลาเฉลี่ย 95 เดือน หรือประมาณ 8 ปี หรือแค่จากช่วง Seed เป็น Series A ก็ใช้เวลาเฉลี่ย 20 เดือนแล้ว เทียบกับสตาร์ตอัพเทคโนโลยีทั่วไปใช้เวลาแค่ 15 เดือนเท่านั้น ซึ่งเราหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มจำนวน Deep Tech Startup ของไทย และสร้างยูนิคอร์นตัวใหม่ในประเทศ”
ปัจจุบัน บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทร่วมลงทุนที่รวมเงินจาก 16 บริษัทในไทยมาลงทุนในสตาร์ตอัพ ดำเนินงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ลงทุนไปแล้ว 18 บริษัท (Exit ไปแล้ว 1 บริษัท) คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 92 ล้านบาท จากขนาดกองทุนประมาณ 700 ล้านบาท
โดยสตาร์ตอัพที่อินโนสเปซเข้าไปลงทุนทั้ง 17 บริษัท มีรายชื่อดังนี้
- Digital Tech : ChocoCRM, GETLINKS, CLOUDCOMMERCE.CO, QueQ, Creden.co และ LEMONAIDE
- Industry 4.0 : Vulcan Coalition, ZTRUS, EASYRICE, Wazzadu และ Horganize
- Foodtech : TASTED BETTER, UniFAHS, Freshket, Farmbook และ Ricult
- Healthtech : NABSOLUTE
