สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มสดใส ยอดสมาชิก Disney+ เพิ่ม แต่หุ้นร่วง 10%

Photo by JOEL SAGET / AFP

Disney เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ยอดสมาชิกสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจเคเบิลทีวีและการผลิตรายการความบันเทิงอาการไม่ดี ฉุดราคาหุ้นร่วง 10% ขณะที่ยอดสมัครสมาชิกของ Netflix เพิ่มทะลุ 269 ล้านราย

วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นักลงทุนไม่พอใจผลประกอบการของบริษัท ดิสนีย์ ที่แม้จะมีการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดแสดงรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 17% ซึ่งเป็นไตรมาสสองทางการเงินของบริษัท ซึ่งสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ แต่หุ้นของบริษัทร่วงลง 10% เนื่องจากพลาดเป้าประมาณการรายรับ 4 ไตรมาสติดต่อกัน

รายได้จากการดำเนินงานรวมของ Disney เพิ่มขึ้น 17% เนื่องจากแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพื่อความบันเทิงของบริษัทอย่าง Disney+ และ Hulu ทำกำไรได้ในไตรมาสนี้เป็นครั้งแรก เมื่อรวมกับ ESPN+ ธุรกิจสตรีมมิ่งขาดทุน 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ไตรมาสนี้

รายรับจากธุรกิจสตรีมมิ่งความบันเทิง (ไม่รวม ESPN+) เพิ่มขึ้น 13% คิดเป็น 5.64 พันล้านเหรียญสหรัฐ และรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากขาดทุน 587 ล้านเหรียญสหรัฐในปีก่อน Disney ให้เหตุผลว่า เนื่องจากสมาชิก Disney+ ที่เพิ่มขึ้นและรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ที่สูงขึ้น

สมาชิก Disney+ Core เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 ล้านรายในไตรมาสที่สองเป็นลูกค้าทั่วโลก 117.6 ล้านราย สมาชิก Hulu ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1% เป็น 50.2 ล้านราย สมาชิก ESPN+ ลดลง 2% เป็น 24.8 ล้านราย

Advertisment

แม้ว่าธุรกิจแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเติบโต และสามารถพลิกกำไร แต่ธุรกิจดั้งเดิมของดิสนีย์ซึ่งเป็นรากฐานไม่ว่าจะเป็น ยอดขายคอนเทนต์ ลิขสิทธิ์ และรายรับอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงบ็อกซ์ออฟฟิศ ลดลง 40% ในไตรมาสนี้เหลือ 1.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก Disney ไม่มีภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ในไตรมาสนี้

รวมถึงธุรกิจเคเบิลทีวีแบบผังรายการ ที่ยอดบอกรับสมาชิกลดลง รายรับจากเครือข่ายทีวีแบบผังรายการทั้งพอร์ตโฟลิโอของ Disney ลดลง 8% รายได้จากการดำเนินงานลดลง 22% เหตุผลคือนอกจากสมาชิกน้อยลง และการเก็บค่าธรรมเนียมพันธมิตรทีวีระหว่างประเทศลดลง รายได้จากการโฆษณาก็ลดลงด้วย จำนวนผู้ชมเฉลี่ยที่ลดลง