ดีป้าไม่หวั่น! ลุยจัด BigBang ต่อ พร้อมเดินหน้าดูไบ WorldExpo

ดีป้าเดินหน้าจัด Digital Thailand Big Bang ย้ำโปร่งใสทุกขั้นตอนพร้อมให้ตรวจสอบได้ เผยงบประมาณปี 2563 เคาะแล้วได้ 1,240 ล้านบาท ก้อนใหญ่สุดคือค่าจัดงาน World Expo 2020 Dubai 300 ล้านบาท

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า งบประมาณปี 2563 ของดีป้า ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร มีทั้งสิ้น 1,240 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯจัดงาน Digital Thailand Big Bang 125 ล้านบาท งบประมาณการขับเคลื่อนบูรณาการภูมิภาค 200 ล้านบาท งบฯก่อสร้างสถาบันไอโอที 200 ล้านบาท งบฯจัดงาน World Expo 2020 Dubai 300 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำของสำนักงาน อาทิ เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ พร้อมประกาศเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกอภิปรายในการแปรญัตติงบประมาณฯ ที่พาดพิงว่า กระบวนการทำงานไม่โปร่งใส

“ยืนยันว่า กระบวนการทำงานของดีป้ามีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ยินดีให้ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการงบประมาณ ในการชี้แจงตรวจสอบทุกอย่าง มีการทำหนังสือแจ้งกลับอย่างเป็นทางการในทันทีที่ได้รับหนังสือ โดยส่งถึงทั้งประธาน เลขาธิการ กรรมาธิการ พร้อมลงหนังสือรับเข้าระบบสารบรรณของรัฐสภาแล้ว ก็ไม่เข้าใจที่ถูกระบุว่า ไม่ให้ความร่วมมือ”

สำหรับงาน Digital Thailand Big Bang ในปีนี้ได้เริ่มเตรียมการจัดงานแล้ว โดยได้เริ่มสำรวจว่า มีสถานที่จัดงานใดบ้างที่ยังว่างอยู่ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ช่วงระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค. 2563 โดยยังคงยืนพื้นที่จัดงานที่ 40,000 ตร.ม. เพราะต้องใช้พื้นที่ทั้งนิทรรศการ สัมมนา เวิร์กช็อปต่าง ๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า มีตัวเลือกให้ไม่เยอะมากที่จะมีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ก.พ. จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสถานที่จัดงาน

“ต้องจัดในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. เพื่อสร้างการจดจำในวงกว้างว่าช่วงเดือนดังกล่าวประเทศไทยจะมีงานมหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากจัดงานมาแล้ว 2 ครั้ง องค์กรในหลายประเทศก็มีภาพจำไปแล้วว่า ไทยจะมีงานใหญ่ช่วงนี้ หัวใจสำคัญของงานพวกนี้อยู่ที่ความสม่ำเสมอ ไม่ใช่อยากทำก็ทำ อยากเลิกก็เลิก”

สำหรับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ได้ใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงสำหรับการเช่าพื้นที่ เนื่องจากมีตัวเลือกไม่มาก การเลือกเป็นแพ็กเกจยังให้ความคุ้มค่าและประหยัดงบประมาณมากกว่า ส่วนการจัดจ้างการดำเนินงานนิทรรศการใช้กระบวนการอีบิดดิ้ง (e-Bidding) ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 ทุกประการ อีกทั้งผลการสรุปการจัดงาน ก็ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทั้งผู้เข้าชมงานกว่า 580,000 คน เป็นตัวแทนสถานทูตกว่า 24 ประเทศ เกิดความร่วมมือระดับนานาชาติมากมายภายในงาน สร้างมูลค่าการเจรจาทางธุรกิจกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น