กสทช. รับลูก เร่งแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย ระงับบริการผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กรณีมีเอกสารจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ถึงเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องขอให้ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลาย หรือ ลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ พร้อมเอกสารที่แนบมาด้วย คือ 1.คำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 11/2563 เรื่อง ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิก พ.ศ 2548 และ 2.IP Address แอปพลิเคชั่นเทเลแกรม(Telegram)

ล่าสุดนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (19 ต.ค. 2563) สำนักงาน กสทช. เพิ่งได้รับหนังสือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ขอให้ดำเนินการระงับการกระทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ดังนั้นทางสำนักงาน กสทช. จึงขอชี้แจงว่า หลักปฏิบัติโดยทั่วไปเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวเนื้อหาที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2563 กระทรวงฯ เป็นผู้มีอำนาจในการชี้ว่าเนื้อหาใดที่ปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ตผิดตาม พ.ร.บ. และจะประสานงานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการโครงข่าย (IIG) ในประเทศไทยให้ดำเนินการตามกฎหมาย และจะส่งเรื่องมาให้สำนักงาน กสทช. ช่วยกำชับไปยัง ISP และ IIG ให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว

สำหรับกรณีนี้ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความผิดร้ายแรง ได้มีคำสั่งที่ 11/2563 เรื่อง ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน ม. 9 ประกอบ ม. 11 ตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้สำนักงาน กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการเพื่อระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ทางกระทรวงฯ จึงได้ขอความร่วมมือให้สำนักงาน กสทช. จะประสานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความผิดร้ายแรง ต่อไป

ส่วนบริเวณแยกเกษตร ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถโดยสาร สาย 522 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

– เที่ยวไป ออกจากอู่รังสิต มาตามถนนพหลโยธิน แยกลาดพร้าวตรงไป ถึงแยก อตก.ขวาเข้าถนนกำแพงเพชรตรงไปคลองประปาถึงถนนพระราม 6 ซ้ายเข้าแยกตึกชัย (ไม่ขึ้นด่วน)

– เที่ยวกลับ ออกจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นทางด่วน ลงพันธุ์ทิพย์ ถึงเดอะมอลล์งามวงศ์วานเลี้ยวขวาไปคลองประปา ซ้ายไปประชานุกูล ซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก ขึ้นสะพานข้ามแยกเข้ารัชโยธินซ้ายเข้าพหลโยธินข้ามสะพานแยกเสนา-แยกเกษตร เข้าเส้นทางปกติ