คอลัมน์ สตาร์ตอัพปัญหาทำเงิน
โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
หนึ่งในภาระของคนรักสุนัขคือ ต้องคอยจัดหาข้าวปลาอาหารให้เจ้าตูบเพื่อนยากอิ่มหมีพีมัน ร่างกายแข็งแรงอยู่เป็นมิตรแท้ของเราไปนาน ๆ
ด้วยความรักนี้ทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญ กว่าครึ่งมาจากอาหารสุนัขล้วน ๆ
จึงไม่น่าแปลกใจที่วงการอาหารสุนัขจะเป็นอีกสนามล่อตาล่อใจสตาร์ตอัพพาเหรดมาลองวิชา รวมถึง Betternut Box สตาร์ตอัพน้องใหม่จากเกาะอังกฤษ
“Betternut Box” เพิ่งก่อตั้งเมื่อเมษายนปีที่แล้ว มาพร้อมทางเลือกใหม่ของอาหารสุนัข เน้นผลิตอาหารปรุงสุก สด ใหม่ รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดีและมีสารอาหารสำหรับสุนัขครบถ้วน
ซีอีโอและเจ้าของบริษัทเป็นชายหนุ่ม 2 คน ชื่อ เควิน ไกลน์ และ เดวิด โนแลน ทั้งคู่เคยทำงานให้สถาบันการเงินชื่อดัง Goldman Sachs ก่อนกระโดดร่วมชิงส่วนแบ่งของเค้กก้อนโตในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่ากว่า 3.1 พันล้านปอนด์ โดยมองว่ามีช่องว่างเติบโตโดยเฉพาะในหมวดอาหารปรุงสุก เพราะส่วนใหญ่ที่วางขายเป็นอาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารสดใหม่สำหรับสุนัขของตน
จุดแข็งของ Betternut Box คือ ทุกเมนูอาหารพัฒนาขึ้นโดยโภชนากรอาหารสัตว์จึงมั่นใจได้ว่าทุกเมนูมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่ครบครัน
นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ระบบอัลกอริทึ่มวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะของสุนัขแต่ละตัว เช่น อายุ น้ำหนัก สายพันธุ์ ลักษณะนิสัย รวมทั้งลักษณะทางกายภาพอื่น เพื่อคำนวณปริมาณกิโลแคลอรี่และสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันอีกด้วย
ที่ต้องพิถีพิถันเรื่องโภชนาการและปริมาณอาหารขนาดนี้ ก็เพื่อเลี่ยงปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคอ้วน ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเจ้าตูบ เพราะแค่ในอังกฤษเอง ประเมินกันว่าปีหนึ่ง ๆ เจ้าของต้องเสียเงินค่ารักษาโรคอ้วนของสุนัขรวมกันสูงถึงปีละ 200 ล้านปอนด์ทีเดียวเชียว เหตุพราะบรรดานาย ๆ ปรนเปรอสุนัขด้วยสารพัดอาหาร รวมทั้งอาหารขยะทำให้ตูบน้อยกลายเป็นตูบอุ้ยอ้ายนอนพุงปลิ้นคาชามข้าวไปวัน ๆ
เมื่อมีสุขภาพเจ้าตูบเป็นเดิมพัน เจ้าของหลายรายจึงไม่ลังเลที่จะลองใช้บริการ Butternut Box ซึ่งก็เพียงแค่ล็อกอินเข้าเว็บไซต์และกรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับสุนัขของตน เช่น ชื่อ อายุ สายพันธุ์ น้ำหนัก นิสัย (ซน ซ่า เงียบ หงิม) และลักษณะการกิน (กินน้อย กินจุ กินดะ กินยากกินเย็น) เป็นต้น
กรอกเสร็จ ระบบจะประมวลผลทันทีว่าสุนัขตัวนั้นจำเป็นต้องได้อาหารกี่กิโลแคลอรี่ต่อวัน ก่อนเสนอเมนูให้เลือก มีทั้งเมนูเนื้อ ไก่ ไก่งวง และเมนูแกะ ทุกเมนูบรรจุในถุงอย่างดีสำหรับหนึ่งวัน แค่ฉีกถุงเทลงชามข้าวเป็นอันเสร็จ
ที่หน้าถุงจะมีรายละเอียดสารอาหารและวัตถุดิบที่ใช้ หากอยากอ่านรายละเอียดเพิ่ม ก็คลิกไปที่หน้าเว็บ เช่น เมนูเนื้อ ประกอบด้วยเนื้อบดชั้นดี 45% หัวใจ 10% ตับ 5% ตามด้วยผักสารพัดชนิดทั้งแครอต ถั่วเลนทิล กะหล่ำดอก อื่น ๆ (ดูภาพแล้วชวนน้ำลายสอมาก)
Butternut Box บอกว่าทุกเมนูปรุงสุกใหม่ ๆ ทุกอาทิตย์ โดยครัวอยู่ที่ลอนดอน ซึ่งมีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน มีทีมเชฟค่อย ๆ ปรุงอาหารอย่างใจเย็น แถมชิมรสก่อนบรรจุถุงด้วย เพื่อให้ชัวร์ว่านอกจากอุดมด้วยสารอาหาร ยังอร่อยด้วย
หากเทียบกับอาหารแบบเปียกที่บรรจุกระป๋องขายตามห้าง Butternut Box เคลมว่าอาหารของตนสดใหม่กว่า เพราะปรุงตามออร์เดอร์ ไม่ใช่เก็บดองข้ามปี ทั้งไม่ใช้อุณหภูมิสูงในการปรุงเหมือนอาหารกระป๋องทั่วไปทำให้คงสารอาหารไว้ได้มากกว่า นอกจากนี้ยังไม่ใส่สารกันบูด หรือสารปรุงแต่งใด ๆ
ทั้งหากดูปริมาณโปรตีนดูจะมากกว่า เช่น อาหารเปียก “รสไก่” ทั่วไปมีปริมาณเนื้อไก่จริง ๆ แค่ 4% ขณะที่ของ Butternut Box มีถึง 60% และที่สำคัญคือ อาหารของ Butternut Box จะคำนวณปริมาณมาได้พอเหมาะกับการบริโภคในแต่ละวันทำให้เจ้าของสุนัขสบายใจได้ว่า จะไม่หนักมือเทอาหารให้เจ้าตูบสวาปามมากเกินไปจนอ้วนเผละเสียทรง
สนนราคานั้น ทาง Butternut Box แบ่งตามขนาดของสุนัข ถ้าเป็นไซซ์เล็ก ตกวันละ 1.6 ปอนด์ ไซซ์กลาง วันละ 2.66 ปอนด์ และไซซ์ใหญ่วันละ 3.92 ปอนด์ โดยบริษัทจะบรรจุอาหารถุงเหล่านี้ใส่กล่องครั้งละ 14 ถุง (เก็บใส่ตู้เย็นไว้กินได้ 14 วัน) โดยคิดเงินทุก ๆ 28 วัน
เปิดกิจการมาได้ปีกว่า ๆ บริษัทปรุงอาหารส่งตามบ้านไปแล้วกว่า 250,000 มื้อ ระดมทุนมาได้ 1 ล้านปอนด์ และถ้า Butternut Box สามารถมัดใจเจ้าตูบด้วยเสน่ห์ปลายจวักจนอยู่หมัด เจ้าของสุนัขก็ไปไหนไม่รอด ต้องกดซื้อเมนูโปรดของตูบน้อยรัว ๆ ต่อไป
