“สปีด” ตั้งเป้าปี’66 โตพันล้าน ทำ 200 ตู้ห้องเย็นรถไฟไปจีน

ชอ ชิง แลม
ชอ ชิง แลม

“สปีด อินเตอร์ ทรานสปอร์ต” ตั้งเป้าปี 2566 รายได้โตทะลุ 1,000 ล้านบาท หลังทุ่มกว่า 200 ล้านบาท ว่าจ้างทำ “ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น 200 ตู้” ให้บริการขนส่งทุเรียนขึ้นรถไฟจีน-ลาวเจ้าแรกในไทย รับฤดูผลไม้ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ชี้ค่าขนส่งทางรถไฟสูง แต่รถไม่ติด สามารถทำเวลา ลดความเสี่ยงเรื่องผลไม้เน่าเสียได้ ขนได้ 35 ตู้ต่อขบวน

นายชอ ชิง แลม ประธาน บริษัทสปีด อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งข้ามชาติรายใหญ่ ซึ่งให้บริการทั้งทางบก ทางเรือ รถไฟ และทางอากาศ ครอบคลุมประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาวอย่างเป็นทางการ บริษัทสปีดฯถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ได้ลงทุนกว่า 200 กว่าล้านบาท

ในการว่าจ้างผลิต “ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น” จำนวน 200 กว่าตู้ เพื่อให้บริการขนสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการขนส่งทุเรียนจากไทยไปจีน ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ยังไม่กล้าลงทุน เพราะต้นทุนต่อตู้คอนเทนเนอร์ค่อนข้างสูง ประมาณ 1 ล้านบาทต่อตู้ อีกทั้งฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกของไทยที่จะใช้บริการขนส่งทางรถไฟไปจีนมีเพียง 2 เดือน คือช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมเท่านั้น ถ้าผลไม้ออกทั้งปีนักธุรกิจรายอื่นถึงจะกล้าลงทุน

ขณะเดียวกัน เมื่อหมดฤดูผลไม้ต้องหาพื้นที่เก็บตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรอใช้งานในปีถัดไป ทำให้นักธุรกิจส่วนใหญ่มองว่าไม่คุ้มต่อการลงทุน ทั้งนี้ ปี 2566 บริษัท สปีดฯตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าปี 2565 ที่มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท

“รถไฟไม่เหมือนรถบรรทุก รถบรรทุกขนส่งไป-กลับค่าใช้จ่ายลดลง แต่รถไฟเขาคิดราคาเดียวกันทั้งเที่ยวไปและกลับ ถ้าหากมีการขนส่งสินค้ากลับมาก็ต้องจ่ายเพิ่ม ต้องรอขนกลับมา ต้องเสียเวลาอีก ซึ่งรถไฟจะจำกัดเวลาไป-กลับ ไม่สามารถรอสินค้าได้ หากเกินเวลาต้องรอรถไฟขบวนใหม่ และต้องคิดราคาค่าขนส่งสินค้าใหม่ด้วย” นายแลมกล่าว

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขนส่งสินค้าทางรถไฟจีน-ลาวนั้นช่วยย่นระยะเวลาในการขนส่งผลไม้สด ลดความเสี่ยงของการเน่าเสีย และความเสียหาย อีกทั้งยังทำให้การจราจรขนส่งทางบกหรือรถบรรทุกลดความแออัด รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการค้า การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพของการขนส่งอาจนำไปสู่โอกาสทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างไทยและจีน รวมทั้งกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค

“การส่งออกทางรถไฟถือว่าเป็นเรื่องของผู้ประกอบการหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นที่มีมาตรฐาน ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีใครทำมาก่อน ปัจจุบันมีรถไฟจีน-ลาวให้บริการ 7 เที่ยว/วัน ขนส่งได้ครั้งละ 35 ตู้ต่อขบวน และมีการกำหนดปริมาณน้ำหนัก

นอกจากนี้ ยังต้องใช้ระยะเวลาในเรื่องขั้นตอนเอกสารผ่านในแต่ละด่านต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน ปัจจุบันราคาค่าขนส่งทางรถไฟสูงกว่าการขนส่งทางบกและทางเรือ ยกตัวอย่าง ถ้าการขนส่งทางรถบรรทุกจากท่าเรือแหลมฉบังไปถึงด่านโมฮานจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 บาท/ตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนค่าขนส่งทางรถไฟจีน-ลาว ปลายทางเมืองคุนหมิง ประมาณ 150,000-170,000 บาทต่อตู้คอนเทนเนอร์” นายแลมกล่าว และว่า

ปัจจุบันบริษัทสปีด อินเตอร์ฯมี operating yards 4 แห่ง ได้แก่ แหลมฉบัง, วังน้อย, บางพลี และนครพนมมีเรือขนส่งในเครือบริษัทประมาณ 380 ลำ, ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น 200 กว่าตู้ และมีหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ 500 หัวลาก โดยบริษัทมีตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นอัจฉริยะเทคโนโลยีใหม่ 200 กว่าตู้ และรถพ่วง 414 คัน

นอกจากนี้ บริษัทสปีดฯยังให้บริการด้านขนส่ง การขนส่ง & ลาน การขนส่งข้ามพรมแดนบริการ การขนส่งทางอากาศ นายหน้าขนส่งทางเรือเดินทะเล มีบริการให้เช่าคลังสินค้าห้องเย็น

ทั้งนี้ บริษัทสปีดฯให้ความสำคัญด้านบริการขนส่งที่ตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีตู้คอนเทนเนอร์อัจฉริยะ และบริการขนส่งข้ามพรมแดนทางรถไฟ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

และรับประกันว่าสินค้าของลูกค้าจะได้รับการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยบริษัท สปีด อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2543 ด้วยทุนจดทะเบียน 275 ล้านบาท