คอลัมน์ ดาต้าภูธร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานข้อมูลในช่วงกลางปี 2562 ว่า ปัจจุบันธุรกิจสถานออกกำลังกาย อันได้แก่ ศูนย์ฟิตเนส บริการแอโรบิก ศูนย์โยคะ และสปอร์ตคลับ ที่มีการจดทะเบียนทั่วประเทศ นอกเขตกรุงเทพฯมีจำนวนอยู่ราว 476 ราย โดยภาคใต้มีจำนวนมากที่สุดที่จำนวน 174 ราย หรือ 36.5% รองลงมาคือ ภาคกลาง 113 ราย หรือ 23.7% ภาคตะวันออก 72 ราย หรือ 15.1% ภาคเหนือ 62 ราย หรือ 13% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 38 ราย หรือ 7.9% ภาคตะวันตก 17 ราย หรือ 3.5% และหากแบ่งตามทุนจดทะเบียนพบว่า ภาคกลางมีปริมาณสูงสุดที่ 1,680.50 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคใต้ 532.44 ล้านบาท ต่อมาคือภาคตะวันออก 412.10 ล้านบาท ภาคเหนือ 162.55 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 67.83 ล้านบาท และน้อยสุดคือภาคตะวันตก 36.10 ล้านบาท มียอดรวมทุกภาค 2,894.52 ล้านบาท
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ส่วนจังหวัดที่มีปริมาณมากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ ภูเก็ต จำนวน 82 ราย ชลบุรี จำนวน 54 ราย เชียงใหม่ จำนวน 37 ราย ซึ่งล้วนแต่เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น มีกำลังซื้อสูง และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการคมนาคมสนับสนุนการใช้บริการของกลุ่มผู้บริโภค
ทั้งนี้ เมื่อดูยอดรวมธุรกิจฟิตเนสทั้งประเทศ (รวมกรุงเทพฯ) พบว่ามียอดรวม 816 ราย เป็นเงินทุนจดทะเบียน 8,350.66 ล้านบาท โดยในปี 2562 เฉพาะช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม พบว่ามีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 70 ราย หรือคิดเป็น 20.69% จากช่วงเดียวกันในปี 2561 ที่มีการจดทะเบียนอยู่ที่ 58 ราย ทว่า เป็นเงินทุนจดทะเบียน 133 ล้านบาท หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่ 12.5%
นอกจากนี้ หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า ในช่วงปี 2562 มีการลงทุนของชาวต่างชาติในนิติบุคคลไทย เพิ่มจากปี 2561 ในช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 27.9% หรือจาก 934.28 ล้านบาท เป็น 1,194.96 ล้านบาท และจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาข้อมูลในระยะ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2559 ที่มีอยู่ 560.15 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 895.1 ล้านบาทในปี 2560 และ 1,080.39 ล้านบาทในปี 2561 คาดว่าเป็นผลจากการร่วมทุนและการนำแบรนด์ฟิตเนสต่างชาติมาเปิดสาขาในประเทศไทย
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้อธิบายข้อมูลชุดดังกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการออกกำลังกายได้รับความนิยมมากขึ้น ตามแนวโน้มและกระแสการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังเพิ่มการบริการรูปแบบใหม่ ๆ เช่น การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ฟิตเนสขนาดเล็กที่มีผู้ฝึกสอนส่วนตัว ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงไปจนถึงศูนย์ออกกำลังกายเฉพาะด้าน ได้แก่ ปั่นจักรยานในร่ม โยคะ มวยไทย เพื่อการออกกำลังกาย เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเทียบกับสถิติการจัดงานวิ่งในประเทศไทยช่วงปี 2557-2560 พบว่าความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจากปี 2557 ที่จำนวน 472 งาน และปี 2558 ที่จำนวน 492 งาน กลายเป็น 708 งานในปี 2558 และ 832 งานในปี 2560