รถโดยสารโคราช-ระยอง ผู้โดยสารหาย 70% หลังทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด

รถโดยสารโคราช-ระยอง ผู้โดยสารหายไป 70% บางเที่ยวไม่มีผู้โดยสารต้องหยุดวิ่งรถ หลังพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ประกอบการโวยรัฐบาลเป็นต้นเหตุ วอนอย่าเพิ่งนำชาวต่างชาติเข้าประเทศ

วันนี้ (16 กรกฎาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 โดยบริเวณจุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสารปรับอากาศ สายนครราชสีมา-ระยอง เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากที่มีข่าวทหารอียิปต์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดระยอง ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าเดินทางเข้าไปในพื้นที่จังหวัดระยอง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะเดินทางไปจังหวัดระยอง ในสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 มีทั้งหมดจำนวน 3 ราย ผู้ประกอบการบางรายต้องลดจำนวนเที่ยวลง 50% เพราะบางเที่ยวไม่มีผู้โดยสารใช้บริการเลย

นายศุวิทย์ เกิดคล้าย ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ สายนครราชสีมา-ระยอง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ให้บริการผู้โดยสารเดินทางไปในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย ระยอง จันทบุรี และตราด ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีมีทหารอียิปต์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดระยองเป็นอย่างมาก เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาก็ทำให้ผู้โดยสารทั้งขาขึ้นขาล่องหายไปถึง 70% ทันที ไม่เฉพาะสายที่เดินทางไปจังหวัดระยองเท่านั้น แต่รถที่วิ่งไปจังหวัดใกล้เคียงทั้งจันทบุรี และตราด ผู้โดยสารก็หายไปเป็นจำนวนมากด้วย รถโดยสารบางเที่ยวต้องหยุดวิ่งเพราะไม่มีผู้โดยสารเลยแม้แต่รายเดียว อย่างเช่นรถโดยสารเที่ยวที่เห็นอยู่นี้ เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะออกเดินทาง แต่ภายในรถมีผู้โดยสารเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการวิ่งรถเปล่า

ทั้งนี้ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะก็หยุดวิ่งรถมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ช่วงนั้นเดือนร้อนอย่างหนัก ไม่ได้แม้กระทั่งเงินเยียวยาอะไรเลย แต่เมื่อรถโดยสารกลับมาเริ่มวิ่งได้เพียงเดือนกว่าๆ ก็กลับมามีเหตุการณ์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยองขึ้นอีก ทั้งที่ประชาชนทุกคนพยายามทำดีมาโดยตลอด แต่เรื่องกลับมาเกิดจากความผิดพลาดของหน่วยงานรัฐเสียเอง ดังนั้นจึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่า อย่าให้มีชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศช่วงนี้ได้หรือไม่ หรือถ้ามีมาก็ให้กักตัวอยู่แต่ในพื้นที่เฉพาะ และให้มีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้เขาออกมาเดินเพ่นพ่านเหมือนในครั้งนี้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมจนเศรษฐกิจพัง แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ