เชียงใหม่ เปิดฟาร์มดอกไม้หลากสี love Flower Farm หนุนเกษตรกร

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวดอกไม้บานที่เหมืองแก้ว ครั้งที่ 2 ชวนนักท่องเที่ยวชมดอกไม้งามหลากสีสันหลายสายพันธุ์ ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้เพื่อการค้าและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เผยเม็ดเงินถึงชุมชนไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านบาท

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตไม้ตัดดอกเพื่อการค้า ตำบลเหมืองแก้ว ถือเป็นแหล่งปลูกไม้ดอกเพื่อการค้าที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกไม้ดอกประมาณ 1,038 ไร่ เกษตรกร 353 ราย ทั้งในพื้นที่ตำบลโป่งแยงและตำบลเหมืองแก้ว เช่น กุหลาบ มากาเร็ต พีค็อก สร้อยไก่ เบญจมาศ

สำนักงานเกษตรอำเภอแม่ริมได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพไม้ดอกโดยผ่านกระบวนการแปลงใหญ่ ส่งเสริมการลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพผลผลิตของกลุ่มและเชื่อมโยงการตลาดในรูปแบบการขายแบบออนไลน์ มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทำให้แหล่งปลูกไม้ดอกอำเภอแม่ริมเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมร่วมเปิดงานฤดูการท่องเที่ยว ดอกไม้บานที่เหมืองแก้ว ครั้งที่ 2 ณ สวน I love Flower Farm อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2563 – 30 เมษายน 2564

ในส่วนของ​ตำบลเหมืองแก้วมีเกษตรกรจำนวน 78 ราย มีพื้นที่ปลูกไม้ดอกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 203 ไร่ โดยมีนางสาวณวิสา มูลทา Smart Farmer ต้นแบบด้านการผลิตไม้ดอกเพื่อการค้าแบบครบวงจร และกลุ่มสมาชิกผลิตไม้ดอกจำหน่าย

Advertisment

โดยใช้หลัก “ตลาดนำการผลิต” การติดต่อผู้ซื้อหรือ Organizer โดยตรง มีการสั่งซื้อล่วงหน้าจึงสามารถวางแผนการผลิตไม้ดอกเป้าหมายให้แก่ตนเองและสมาชิก สามารถผลิตไม้ดอกตามความต้องการของผู้ซื้อหรือตลาดต้องการ เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ตลอดทั้งปี

​ทั้งนี้ เมื่อเปิดสวนดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายภาพความงดงาม พร้อมชมวิถีชีวิตของคนปลูกดอกไม้ในชุมชนได้อย่างใกล้ชิดในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้เกิดกระแสแชร์กันในสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น ก่อนจะมีการตัดช่อดอกเพื่อส่งถึงมือผู้รับซื้อ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเก็บค่าเข้าชมสวนของนักท่องเที่ยวคนละ 50 บาทเพื่อเป็นค่าบำรุงสวน

Advertisment

รวมทั้งการขายอาหาร ของฝาก ของที่ระลึก และเมื่อมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในชุมชนเพิ่มขึ้นก็กระจายรายได้สู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยสวนดอกไม้ในบริเวณนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ไปจนถึงเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากมีหลายสวนและวางแผนการผลิตให้สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอก เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนในชุมชน

“ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่กว่า 4,000-5,000 คนต่อวัน สูงสุด 10,000 คนต่อวัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรและคนในชุมชนมากถึง 80-100 ล้านบาท”