ปืนอาก้า 28 กระบอก ไม่ได้เพิ่งหายปีนี้ กอ.รมน. แจง

ทหารถือปืน
FILE PHOTO : Military_Material : Pixabay

กอ.รมน. แจง ปืน 28 กระบอกที่จังหวัดนราธิวาส ไม่ได้หายล็อตเดียว ในวันเดียว แต่ทยอยหายในช่วงหลายปี วอนประชาชนอย่าตื่นตนก 

วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี ผู้กำกับ สภ.เมืองนราธิวาส แจ้งเหตุด่วนถึง ผู้บัญชาการตตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปืนอาก้า AK 102 จำนวน 28 กระบอกสูญหายจากกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน นราธิวาสตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)

ล่าสุด มติชนรายงาน พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวถึงกรณี อาวุธปืน AK 102 จำนวน 28 กระบอก ของกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 หาย ไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า นายอำเภอจังหวัดนราธิวาส ได้ตรวจสอบสถานภาพของอาวุธปืนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563  และพบว่าหายไป 1 กระบอก จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมอาวุธปืนที่สูญหายทั้งหมดในห้วงที่ผ่านมาว่าหายจากสาเหตุอะไรบ้าง

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จและตรวจพบว่ามีอาวุธปืน หายไปในห้วงที่ผ่านมา จำนวน 28 กระบอก ซึ่งบางส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อความไม่สงบ บางส่วนก็ไม่ใช่ แค่เป็นการทยอยหายในหลาย ๆ ปี และมาสรุปยอดรวมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และมีเพจหนึ่งนำไปเสนอข่าว แต่ลงรายละเอียดไม่ครบถ้วน

“ปืนทั้ง 28 กระบอกไม่ใช่เพิ่งหายและไม่ได้หายไปในล็อตเดียวกัน แต่เป็นการทยอยหาย หรือ อาวุธปืนหายสะสมในภาพรวมในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนายอำเภอ จ.นราธิวาส ได้สำรวจสถานภาพของอาวุธปืนใหม่ว่า มีอยู่จำนวนเท่าไร หายไปอีกกี่กระบอก” โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรตื่นตนกกับข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ พ.อ. วัชรกร กล่าวว่า ขณะนี้มีบางเพจนำเสนอข่าวเพื่อสร้างความตื่นตระหนก แต่ความจริงแล้วลงรายละเอียดไม่ครบถ้วน เพราะตามข้อเท็จจริงเป็นเพียงการตรวจสอบสถานภาพของคลังอาวุธปืนที่หายในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะหายในหลายๆสาเหตุ ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกันไป

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวโยงกับการเตรียมก่อเหตุ หรือการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ใช่หรือไม่ พ.อ.วัชรกร กล่าวว่า มีความพยายามเชื่อมโยง ตามที่มีการนำเสนอข่าวนี้ออกไปให้เป็นประเด็น เพื่อหวังสร้างความตื่นกลัว