“มารีเมกโกะ” แตกไลน์ธุรกิจ เปิดร้านอาหาร-เครื่องดื่ม “มารีเมกโกะ คาเฟ่” พร้อมเดินหน้าขยายสาขาขนาดเล็ก กางแผนบุกตลาดเอเชียแปซิฟิก-เอเชียตะวันตกเฉียงใต้
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท ธนจิรา กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจำหน่าย แบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่น “มารีเมกโกะ” (Marimekko) จากฟินแลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ทำตลาด มารีเมกโกะมา 8 ปี ล่าสุดได้มีการต่อยอดแบรนด์จากการเป็นไลฟ์สไตล์แฟชั่นไปสู่ไลฟ์สไตล์อาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการเปิดตัว มารีเมกโกะ คาเฟ่ (Marimekko Kafe’) ที่ ดิ เอ็ม โพเรียม ชั้น 1 บนพื้นที่กว่า 200 ตร.ม. จากปีที่ผ่านมาได้เปิดในชื่อ Marimekko Pop Up Cafe’ ที่เซ็นทรัล เอมบาสซี่ เพื่อทดลองโมเดล
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
สำหรับ มารีเมกโกะ คาเฟ่ ที่เปิดมีทั้งโซนคาเฟ่ ที่มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน รวมทั้งมีโซนสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ รวมอยู่ในที่เดียว นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับ มารีเมกโกะ ป็อป อัพ คาเฟ่ มาเป็น มารีเมกโกะ คาเฟ่ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของมารีเมกโกะในตลาดประเทศไทยคือ การหากลุ่มลูกค้าใหม่ที่ยังเป็น nonuser ให้เป็น user เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากยังมีผู้บริโภคที่มองว่าเป็นแบรนด์ที่มีราคาสูง หรือมีความเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น เราจึงพยายามสื่อสารและพัฒนาคอนเทนต์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ และเลือกใช้สินค้าของแบรนด์มากยิ่งขึ้น และจากความหลากหลายของประเภทสินค้า (category) จึงทำให้ผู้บริโภคยังเกิดความสับสนว่า มารีเมกโกะเป็นแบรนด์แฟชั่น หรือแบรนด์ของใช้ในบ้าน ซึ่งจริง ๆ แล้วมารีเมกโกะเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ครอบคลุมทุกบริบทในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า กระเป๋า หรือจาน ชาม แต่เป็นแบรนด์ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ มารีเมกโกะ นอกเหนือจากการเชื่อมโยงการมีประสบการณ์ร่วมแล้ว บริษัทยังมองการขยายสาขาในรูปแบบ store format ขนาดเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 60 ตร.ม. ที่คัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายในโลเกชั่นต่าง ๆ อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
ปลายปี 2566 นี้มีแผนจะเปิดสาขาไซซ์เล็กเพิ่มอีก 1 สาขา ที่ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ จากปัจุบันมี 13 สาขา อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์, สยามดิสคัฟเวอรี่, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ชิดลม และดิเอ็มโพเรียม เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็จะมีการขยายการรับรู้ของแบรนด์ออกไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มีประสบการณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมองแผนการขยายแบรนด์มารีเมกโกะ ไปสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งเอเชีย-แปซิฟิก และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ด้วยการนำโมเดล มารีเมกโกะ คาเฟ่ ไปเปิด
ปัจจุบัน มารีเมกโกะ มียอดขายหลักจากกลุ่มสินค้า ready-to-wear คิดเป็น 49% รองลงมาคือสินค้ากลุ่ม bags & accessories 30% และกลุ่ม home collection 20% ต่างจาก มารีเมกโกะ ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียที่ยอดขายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ากลุ่ม home collection
พร้อมกันนี้ นายธนพงษ์ยังกล่าวถึงภาพรวมของ ธนจิรา กรุ๊ป ในปี 2565 ที่ผ่านมาว่า มีการเติบโตที่สูงขึ้น จากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น รวมทั้งมีการเปิดประเทศ ทำให้ธุรกิจกลับมามีรายได้มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก แพนดอร่า ประมาณ 51% มารีเมกโกะ 21% และแบรนด์อื่น ๆ ประมาณ 28% และปลายปีนี้มีแผนจะนำแฟรนไชส์ที่เป็นร้านอาหาร Fine-Dining ที่เป็นแบรนด์พรีเมี่ยมเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอด้วย