ไมเนอร์ กรุ๊ป ชี้ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารโต ระดมทุ่มงบฯ 300 ล้าน ชู 3 แบรนด์หลัก เร่งขยายธุรกิจแฟรนไชส์ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
นางสาวกัญญา เรืองประทีปแสง ประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารโตขึ้น 15% รวมมูลค่าการตลาดประมาณ 4 แสนล้านบาท ในครึ่งปีที่ผ่านมากำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคไม่โต เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในช่วงขาลง ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง จนถึงปลายปีกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคจะมีแนวโน้มสูงขึ้น
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ขณะเดียวกัน “ไมเนอร์ กรุ๊ป” ทุ่มงบฯ 300 ล้านบาท เพื่อขยายแฟรนไชส์ ร้านพิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซ่นส์ และแดรี่ควีน โดยร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยหนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สมัครสินเชื่อภายในวันนี้ถึง 31 ธ.ค.61 เว้นการผ่อนชำระเป็นระยะเวลา 3 เดือน และให้วงเงิน 80% โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันในทั้งสามแบรนด์
นอกจากนี้ยังมีระบบการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และการให้บริการอย่างมีมาตรฐาน สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ ต้องมีคุณสมบัติตามที่บริษัทกำหนด เช่น มีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงพอต่อการลงทุน, มีที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ประกอบกิจการ, ดำเนินธุรกิจด้วยตนเอง, ไม่ประกอบธุรกิจร้านอาหารอื่น ๆ ยกเว้นผู้ประกอบของไมเนอร์ฟู๊ด กรุ๊ป เป็นต้น ถือเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยากมีธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลักในครึ่งปีหลังของร้าน “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” จะเน้นเรื่องความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่ม 100 สาขาทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นร้านแฟรนไชส์ 50 สาขา ซึ่งปัจจุบันแฟรนไชส์ร้านพิซซ่า คอมปะนี มีทั้งหมด 300 สาขา
ด้าน “ไอศกรีมสเวนเซ่นส์” จะเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านรูปแบบร้าน ด้วยการปรับปรุงร้านให้ทันสมัย เน้นความสนุกสนาน สีสันโดดเด่น รวมทั้งการพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ เพี่อรักษาคุณภาพของไอศกรีม เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อยึดครองความเป็นเจ้าตลาดบิงซู โดยเจาะกลุ่มผู้บริโภค ครอบครัวและเด็ก และมีการพัฒนาระบบการสร้างแบรนด์ ด้วยเทคโนโลยีเข้ามาอัพเกรดระบบ เพื่อสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบัน ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์มีทั้งหมด 200 สาขา
ส่วน “ร้านไอศกรีมแดรี่ควีน” มีกลยุทธ์หลักโดยสร้างความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจลูกค้าเดิม ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคในประเทศ และพร้อมขยายผ่านช่องทางใหม่ ๆ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ ด้านการเพิ่มความรู้ในการทำธุรกิจ ปัจจุบัน ร้านไอศกรีมแดรี่ควีน มีทั้งหมด 400 สาขา
อย่างไรก็ตาม “ไมเนอร์ กรุ๊ป” ยังถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่ในเอเชีย โดยมีร้านอาหารชั้นนำ อาทิ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, VGC Food Group, ไทย เอ็กซ์เพรส, ริเวอร์ไซด์, เบร็ดทอล์ค, สเวนเซ่นส์, แดรี่ ควีน, ซิซซ์เลอร์, เบอร์เกอร์ คิง, เอส เอส พี หลังจากนี้จะเริ่มขยายสาขาและรีโนเวตสาขาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่
