หมดยุคหว่านแห จัดให้หนัก หมอลำ โนรา กลยุทธ์เข้าหานักช็อปภูธร

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

เมื่อกำลังซื้อต่างจังหวัดยังเป็นฐานใหญ่ของประเทศ ทำให้สินค้าหลาย ๆ แบรนด์ต่างให้ความสำคัญและพยายามกระตุ้นกำลังซื้อจากนักช็อปกลุ่มนี้ให้ได้ด้วยแนวโน้มที่เกิดขึ้น กลายเป็นโอกาสของเอเยนซี่ที่จะงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาช่วยสินค้าเพิ่มยอดขายอีกแรง

“สมยศ ชัยรัตน์” กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารแจ่มจรัส เอเยนซี่รายใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง “วายดีเอ็ม” และ “อาร์เอ็มเอส สตูดิโอ แอนด์ มัลติมีเดีย” เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงลูกทุ่งและคอนเน็กชั่นกับศิลปินกว่า 200 ราย กล่าวถึงศักยภาพและพฤติกรรมของผู้บริโภคต่างจังหวัดว่า ปัจจุบันตลาดต่างจังหวัดมีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 300,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของประเทศ สะท้อนแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยในธุรกิจค้าปลีกที่มากขึ้น ได้แก่ การใช้จ่ายในคอมมิวนิตี้มอลล์มากถึง 550-1,622 บาทต่อครั้ง ไฮเปอร์มาร์เก็ต 1,299 บาท เดือนละ 3 ครั้ง และใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ 169 บาททุกวันหรือทุกสัปดาห์ รวมถึงเริ่มสนใจสินค้าราคาสูงขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน, แอลอีดีทีวี, สินค้าสุขภาพและอื่น ๆ ส่งผลให้แบรนด์สินค้า-บริการ อาทิ การเงินและอาหาร เริ่มหันมาสนใจจับผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการจับจ่าย การใช้-รับสื่อ รวมถึงทัศนคติของผู้บริโภคต่างจังหวัดยังมีความแตกต่างจากคนกรุงเทพฯ อีกทั้งคนต่างจังหวัดในแต่ละภูมิภาคก็ยังมีพฤติกรรมที่แตกย่อยลงไปอีก ส่งผลให้การทำตลาดต้องเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

“พฤติกรรมคนต่างจังหวัดแต่ละภาคก็แตกต่างกัน ดังนั้น การทำการตลาดแบบหว่านแหหรือใช้คอนเทนต์เดียวกันทั่วประเทศไม่สามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ทั้งหมด ด้วยโอกาสที่เกิดขึ้นบริษัทได้ตั้ง “แจ่มจรัส” ขึ้นเพื่อเจาะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อย่างแม่นยำ”

สิ่งที่แบรนด์ต้องทำ คือ เลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น วิจัยกลุ่มเป้าหมายแยกตามพื้นที่ เพื่อหาอินไซต์ของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ก่อนจะนำมาวางแผนการตลาดที่เจาะลึก เป็นต้น

“สมยศ” เสริมว่า ขณะที่การสื่อสารควรเน้นออนไลน์เป็นหลัก โดยเฉพาะยูทูบเนื่องจากปัจจุบันคนต่างจังหวัดใช้อินเทอร์เน็ตใกล้เคียงคนเมืองแล้ว โดยวันธรรมดาเฉลี่ย 3.48 ชั่วโมงต่อวัน และวันหยุดเฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่คนเมืองใช้งาน 5.83 ชั่วโมง และวันหยุด 6.2 ชั่วโมงต่อวัน แต่สิ่งที่ต่างคือ คนต่างจังหวัดชอบคอนเทนต์เพลง ดังนั้น หากแบรนด์ต้องการเจาะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ควรใช้กลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตเป็นหลัก ซึ่งคนแต่ละภาคก็ใช้เพลงไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง ภาคอีสานต้องใช้หมอลำ ภาคใต้ต้องเพลงเพื่อชีวิต

รวมถึงต้องเสริมทัพด้วยการจัดกิจกรรมออนกราวนด์ต่อเนื่อง เช่น คอนเสิร์ต หนังตะลุง โนรา หมอลำ เป็นต้น ซึ่งแบรนด์สามารถเข้าเป็นสปอนเซอร์หรือใช้เป็นช่องทางสื่อสารได้ ขณะที่ตัวดารา-นักร้องที่จะนำมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละภาคก็ต้องแตกต่างกันด้วย เพราะคนแต่ละพื้นที่มีความชื่นชอบนักร้องไม่เหมือนกัน

“สมยศ” กล่าวว่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เชื่อว่าการจับมือกับอาร์เอ็มเอสจะช่วยให้บริษัทสามารถทำการตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเอเยนซี่รายอื่น เพราะมีคอนเน็กชั่น

กับนักร้องกว่า 200 คนที่พร้อมนำมาต่อยอดทำการตลาดได้หลากหลายและเข้าถึงนักช็อปภูธรเหล่านี้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าหลายกลุ่มให้ความสนใจ เช่น กลุ่มสินเชื่อ กาแฟ ไอศกรีม สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เข้ามาเป็นลูกค้ากว่า 30 แบรนด์แล้ว ทำให้คาดว่าปีแรกจะมียอดบิลลิ่งไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาททันที


เรียกว่ามิวสิกมาร์เก็ตติ้งยังเป็นกลยุทธ์หลักที่โดนใจและสามารถเก็บเม็ดเงินของนักช็อปภูธรไว้ได้