ดีมานด์เครื่องฟอกยังโตพุ่ง เร่งนำเข้าตุนสต๊อกเดินสายปลุกตลาดทั้งปี

มลพิษท่วม กทม.ลามถึงเหนือ-อีสาน แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดมเพิ่มสต๊อกเครื่องฟอกอากาศ พร้อมลงพื้นที่ทำตลาดต่อเนื่องหวังชิงดีมานด์ ชาร์ปเดินหน้าทำตลาดตลอดปีชูกรองสารพัดกลิ่น-สมาร์ทฟังก์ชั่น แอลจีเล็งขยายไลน์อัพเครื่องฟอกระดับกลาง-แมส ชูไส้กรอง PM 1.0 ด้านเสี่ยวหมี่สบช่องขนหน้ากากเด็ก-ผู้ใหญ่ขายด้วย

ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ใน กทม.และอีกหลายจังหวัดที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงเดือน ก.พ. ได้ทำให้เครื่องฟอกอากาศซึ่งสินค้าทุกระดับราคาตั้งแต่ 2 พัน-2 หมื่นบาทขาดตลาดในทุกช่องทาง ทั้งโมเดิร์นเทรดรายใหญ่อย่างเพาเวอร์มอลล์ และเพาเวอร์บาย ไปจนถึงร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป

สถานการณ์นี้บีบให้บรรดาแบรนด์สินค้าทั้งญี่ปุ่น-เกาหลี และยุโรปเร่งออกมาตรการมารับมือกับดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็นการยอมขนสินค้าบางส่วนเข้ามาทางเครื่องบินเพื่อความรวดเร็ว หรือเพิ่มกำลังผลิตของโรงงานและยอดนำเข้าช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ขณะเดียวกัน เดินหน้าทำตลาดสร้างการรับรู้ ชูจุดขายจุดแตกต่างจากคู่แข่งหวังชิงดีมานด์ที่กำลังพุ่งสูงนี้

ยอดพุ่ง 30%

แหล่งข่าวจากบริษัท ชาร์ป ไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ได้กระตุ้นความสนใจด้านสุขภาพและดีมานด์เครื่องฟอกอากาศให้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.เห็นได้ชัดจากยอดขายเครื่องฟอกอากาศของบริษัทพุ่งขึ้นไปกว่า 30% ในเวลา 1 เดือน ส่งผลให้สินค้าขาดตลาดในหลายช่องทาง โดยนอกจากการกรองฝุ่น PM 2.5 แล้ว ผู้บริโภคยังสนใจการกำจัดกลิ่นบุหรี่ สัตว์เลี้ยง รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน อีกด้วย

เพื่อรับดีมานด์ตลอดปีนี้จะเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง ทั้งสร้างการรับรู้ด้วยโรดโชว์ไปตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อแนะนำจุดขายของสินค้าแต่ละรุ่น ชูระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งสามารถกำจัดกลิ่นและเชื้อโรคได้ พร้อมกับจัดกิจกรรมบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ “ร่วมแชร์ไอเดีย เราจะลดฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างไร” และ Sharp Happy Home ซึ่งมีรางวัลเป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ

ลงทุนขนทางอากาศ

ด้าน “แอลจี” นั้นเร่งสปีดการนำเข้าสินค้าจากโรงงานเพื่อให้มีสินค้าวางขาย-ส่งให้ลูกค้า โดยนายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องฟอกอากาศรุ่นเพียวริแคร์ ราคา 54,900 บาท ขาดตลาดตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงแรกบริษัทรับมือโดยขนสินค้าส่วนหนึ่งเข้ามาทางเครื่องบินเพื่อส่งให้กับลูกค้าที่จองซื้อไว้แล้ว พร้อมกับดึงสินค้าจากเกาหลีและเพิ่มออร์เดอร์กับทางโรงงานหลังสินค้าที่เข้ามาทุกสัปดาห์หมดอย่างรวดเร็ว

เชื่อว่าตั้งแต่ปลาย ก.พ.ถึงต้น มี.ค.สถานการณ์น่าจะคลี่คลายเนื่องจากเป็นช่วงที่สินค้าซึ่งบริษัทและแบรนด์ต่าง ๆ สั่งเพิ่มจะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดจนเพียงพอกับดีมานด์

ทั้งนี้ ฟังก์ชั่นฟอกอากาศจะยังเป็นฟังก์ชั่นสำคัญที่ผู้บริโภคมองหาในปีนี้ จึงได้ลอนช์แอร์รุ่นมีฟังก์ชั่นฟอกอากาศ ราคาสูงกว่ารุ่นใกล้เคียง 20% และใช้เป็นหัวหอกทำตลาดแอร์ช่วงหน้าร้อนนี้ ชูจุดขายฟิลเตอร์กรองฝุ่นความละเอียด PM 1.0 และเครื่องวัด PM 2.5 บิลต์อิน พร้อมจัดจุดทดลองฟังก์ชั่นฟอกอากาศในร้านค้าเพื่อย้ำจุดขายนี้

ขนสินค้ารับดีมานด์

ด้านเสี่ยวหมี่แบรนด์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เดินหน้าขนสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพเข้ามาเพิ่มเติม นายจอห์น เฉิน ผู้จัดการประจำประเทศไทย เสี่ยวหมี่ เทคโนโลยีระบุว่า การที่เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Air Purifier 2s ขาดตลาดอย่างรวดเร็วสะท้อนถึงดีมานด์สินค้าสุขภาพ จึงได้นำสินค้าอื่นในหมวดนี้เข้ามาทำตลาดเพิ่ม เช่น หน้ากากป้องกันมลพิษสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก ส่วนเครื่องฟอกอากาศนั้นมั่นใจว่าหลังตรุษจีนกำลังผลิตของโรงงานในจีนจะกลับมาเต็มที่อีกครั้ง และสามารถผลิตสินค้าได้ทันกับดีมานด์ในไทยแน่นอน