หุ่นสวย ชุดปัง พร้อมฟิตเนส ดัน “สปอร์ตแฟชั่น” โตไม่หยุด

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

เทรนด์การแต่งตัวแนว “สปอร์ตแฟชั่น” ยังคงเป็นกระแสที่มาแรงข้ามปี ทำให้หลาย ๆ แบรนด์ ไม่เฉพาะแค่แบรนด์กีฬาได้หันมาพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้กันอย่างคึกคัก

“บัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุไว้ว่า ภาพรวมของตลาดเสื้อผ้าแนวสปอร์ตแฟชั่นมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้สภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อจะชะลอตัวบ้างก็ตาม เพราะเทรนด์ของการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และดูแลสุขภาพ ยังคงเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ

และโอกาสของการแต่งตัวสไตล์นี้ในชีวิตประจำวันก็มีมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ใส่ออกกำลังกายเท่านั้น แม็คกรุ๊ปจึงได้แตกไลน์สินค้าในเซ็กเมนต์นี้เพื่อรับกับโอกาสที่เกิดขึ้น โดยเปิดตัวแบรนด์ ยู พี (U-P) เสื้อผ้าแนวแอ็กทีฟแวร์ รองรับการทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ สามารถใส่ไปทำงานและออกกำลังกายได้ในชุดเดียวกัน

โดยจุดแข็งของแบรนด์ คือ ดีไซน์และฟังก์ชั่น ที่เน้นความเรียบง่าย มิกซ์แอนด์แมตช์ สามารถระบายความชื้นและแห้งไว ในราคาเฉลี่ย 600-900 บาทต่อชิ้น ซึ่งต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ทั่วไป และมีสินค้าครอบคลุมทั้งเสื้อ กางเกง สปอร์ตบรา หมวก ฯลฯ

ล่าสุดส่งคอลเล็กชั่นใหม่ “MONOCHROME” และ “PASTEL LOVER” รองรับทั้งกลุ่มลูกค้าหญิงและชาย พร้อมกับเดินหน้าสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ ตลอดจนการสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสซาเดอร์อย่าง ดีเจ.พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน อย่างต่อเนื่อง

ด้านของแบรนด์ชุดชั้นใน ไม่ว่าจะเป็น “วาโก้” หรือ “ไทรอัมพ์” ก็เปิดตัวไลน์ สปอร์ตบรา และแอ็กทีฟแวร์ที่รองรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ชูโนว์ฮาวด้านการผลิตชุดชั้นใน และความเข้าใจในสรีระที่หลากหลายของผู้หญิงมาเป็นจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเนื้อผ้าที่ยืดหยุ่น ไม่ม้วน ระบายอากาศได้ดี การซัพพอร์ตที่ลดแรงสั่นสะทือน สามารถสวมใส่ได้ทั้งในยิมและนอกยิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทรอัมพ์ได้ส่งซับแบรนด์ “Triaction” เข้ามาเจาะตลาดนี้โดยเฉพาะ แบ่งเป็น 2 คอลเล็กชั่นหลัก ๆ ได้แก่ คาร์ดิโอ สำหรับการออกกำลังกายที่เน้นเคลื่อนไหวมาก ๆ อย่าง วิ่ง ปีนเขา ปั่นจักรยาน และสตูดิโอ สำหรับการออกกำลังกายอย่างโยคะ พิลาทิส ราคาตั้งแต่ 1,990-3,090 บาทต่อชิ้น

ส่วนวาโก้ได้พัฒนาไลน์สปอร์ตบราให้มีความหลากหลาย และชัดเจนมากขึ้นภายใต้ไลน์ WACOAL MOTION WEAR ราคาตั้งแต่ 350-990 บาทต่อชิ้น

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ “ปริ๊นเซสบรา” หลังจากที่รับผลิตชุดชั้นในให้กับแบรนด์ดังในยุโรป และหันมาผลิตแบรนด์ของตัวเอง ก็ได้แตกแบรนด์ “TA ACTIVE” ขึ้นมา เพื่อรับกับความต้องการของตลาดแอ็กทีฟแวร์ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันมีคอลเล็กชั่นของสินค้าให้เลือกถึง 7 คอลเล็กชั่น อาทิ TAxAnnethong ที่ร่วมกับ แอน ทองประสม Masai Mara, Geometry เป็นต้น มีราคาตั้งแต่ 1,290-2,490 บาทต่อชิ้น และมีแผนที่จะพัฒนาไลน์สินค้าสำหรับผู้ชายออกมาเพิ่มในอนาคต

การเติบโตของตลาดสปอร์ตแฟชั่นโดยเฉพาะแอ็กทีฟแวร์ ยังทำให้สินค้าหลายแบรนด์ที่วางขายผ่านช่องทางอินสตาแกรม (IG) หรือที่เรียกกันว่าแบรนด์ในไอจี ได้รับความนิยมจนสามารถขยับขยายเข้าห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก อาทิ บีเคเค ฟิต, เจนิม สปอร์ต, พรี บูทีค สปอร์ตแวร์, เวกกิ้งบี ฯลฯ

สินค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์เหล่านี้จะชัดเจนในเรื่องของดีไซน์ และความเป็นแฟชั่น ที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ หลายสไตล์ และล่าสุดแบรนด์เวกกิ้งบี ยังได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นพิเศษที่พัฒนาร่วมกับ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ออกคอลเล็กชั่น “เวกกิ้งบี บาย แต้ว สวิม แอนด์ สเวท” สามารถใส่เป็นชุดออกกำลังกาย และว่ายน้ำได้ในชุดเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวของวงการสปอร์ตแฟชั่น และแอ็กทีฟแวร์ จึงคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ นอกจากฟังก์ชั่นของการสวมใส่เพื่อออกกำลังกายแล้ว คนรุ่นใหม่ ๆ ยังให้ความสำคัญกับดีไซน์ การออกแบบ ที่สามารถสะท้อนแคแร็กเตอร์และไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้