อวสาน “ลานเบียร์เซ็นทรัลเวิลด์” ช้างปั้นแลนด์มาร์กใหม่

เลิกจัด ลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์

คอเบียร์เศร้า ! เซ็นทรัลเวิลด์ประกาศงดจัด ลานเบียร์หน้าห้างฯ แจงผลพวงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน พร้อมเปิดทางให้อีเวนต์ใส ๆ จัดงานแทน “สิงห์-ไฮเนเก้น” เร่งหากิจกรรมใหม่ทดแทนรับหน้าขาย

ส่วน “ช้าง” เล็งยึด “เอเชียทีค” ปั้นแลนด์มาร์กใหม่ ส่วนคราฟต์เบียร์สวนกระแส รวมตัวจัดงานโชว์ต้นพฤศจิกายนนี้ กระฉ่อนวงการ ร้านค้า-ร้านอาหาร-ผับ-บาร์ แอบเล่นลุ้นรางวัลรหัสใต้ฝา “ช้าง 25 ปี” เกลื่อนเหนือ-อีสาน ด้านไทยเบฟฯ ปรับลดราคาฮันทส์แมน-แบล็กดราก้อน กระป๋องละ 5 บาท

หลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดเบียร์มูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนหน้าที่ค่อนข้างซบเซา จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้าซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของเครื่องดื่มประเภทนี้

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ตลาดเบียร์กำลังเข้าสู่ช่วงพีก ผู้ประกอบการต่างก็ต้องช็อกเมื่อการจัดลานเบียร์ เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของกิจกรรมหน้าขายปลายปี ที่สร้างสีสันให้กับผู้บริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องนานกว่า 20 ปีต้องยุติลง และอาจจะไม่มีการจัดลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์อีกต่อไปเลยก็เป็นได้

ลานเบียร์เซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศยกเลิกเป็นครั้งแรก

เซ็นทรัลเวิลด์ เลิกจัดลานเบียร์

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเบียร์รายหนึ่งระบุกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ค่ายเบียร์ทั้ง 3 ค่ายได้รับจดหมายจากทางเจ้าของพื้นที่อย่างเซ็นทรัลเวิลด์ว่า จะไม่มีการให้เช่าพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมลานเบียร์ เนื่องจากทางพื้นที่มีความกังวลเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นจากข้อกฎหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมาตรการของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งนี้ มองว่าการจัดกิจกรรมของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะหลังมักจะมีปัญหาในข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 เรื่องการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความคลุมเครือในการตีความว่าทำอย่างไรถือเป็นการทำความผิดที่เข้าข่ายมาตรานี้ ซึ่งกฎหมายปัจจุบันเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจในการตัดสิน

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ระบุว่า ปีนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่จะไม่มีการจัดกิจกรรมลานเบียร์ที่บริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ขึ้น หากไม่นับสถานการณ์เมื่อปี 2559 เนื่องจากศูนย์มองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป ลานเบียร์อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้เหมือนเดิม โดยจะหันไปทำกิจกรรมอื่น เช่น คอนเสิร์ตร่วมกับพาร์ตเนอร์ อีเวนต์ใหม่ ๆ งานเทศกาลประดับไฟคริสมาสต์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนปีต่อ ๆ ไปก็จะดูจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก

สิงห์-ไฮเนเก้น ปรับกิจกรรม

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ลีโอ ยูเบียร์ ฯลฯ คอนเฟิร์มกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปีนี้จะไม่มีการจัดงานลานเบียร์ขึ้นที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์จริง โดยสิงห์ได้เตรียมปรับรูปแบบการทำกิจกรรมปลายปีใหม่ ซึ่งคงจะได้เห็นเร็ว ๆ นี้ พร้อมกับการเข้าไปสนับสนุนเอเย่นต์ที่ต้องการจะจัดลานเบียร์ในพื้นที่ต่าง ๆ แทน อาทิ คอมมิวนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า

เช่นเดียวกันกับนายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เชียร์ ไทเกอร์ ฯลฯ ที่ยืนยันกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จะไม่มีกิจกรรมลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ในปีนี้ และอาจจะไม่มีในปีถัด ๆ ไปด้วยเช่นกัน หากมองในแง่ดี การที่ไม่ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้ค่ายเบียร์ 3 รายหลัก ต้องครีเอตกิจกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาทดแทน จากเดิมที่การจัดอีเวนต์ลานเบียร์ก็มักจะเป็นรูปแบบเดิม ๆ มีโต๊ะให้นั่งรับประทาน มีซุ้มอาหาร มีคอนเสิร์ต เป็นต้น โดยรูปแบบของกิจกรรมที่ทำมาตลอด 20 ปีไม่ได้แตกต่างกันมาก

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเทศกาลลานเบียร์ในช่วงปลายปีมากว่า 20 ปีแล้ว เป็นจุดไฮไลต์หลักของการทำกิจกรรมการตลาดของทุกค่าย ซึ่งไฮเนเก้นก็ได้รับโอกาสจากเจ้าของพื้นที่ให้ทำกิจกรรมมาโดยตลอด และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่วนกิจกรรมในปีนี้อยู่ระหว่างการสรุปว่าจะจัดออกมาในรูปแบบใด คาดว่าจะสามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ในช่วงกลางเดือนหน้า โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม

“ช้าง” เดินหน้าจัดพื้นที่ตัวเอง

แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวในเรื่องนี้ว่า แม้จะไม่มีการจัดงานลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว แต่เบียร์ช้างยังมีแผนจะจัดงานในลักษณะดังกล่าวเพื่อสร้างความ

คึกคักให้กับตลาดในช่วงหน้าขายปลายปี และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะจัดที่เอเชียทีค และเดอะสตรีท รัชดา เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด และคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มคราฟต์เบียร์ไทย-เทศ จำนวนกว่า 40 แบรนด์ อาทิ อัลเลมองท์, ไตร, บ้านนอกเบียร์, ภูเก็ตเบียร์, มหานคร, ทริปเปิ้ลเพิล, สเปซคราฟท์, กัปตันบาเรล, วิซาร์ดเบียร์ ฯลฯ ได้รวมตัวกันจัดงาน “ไทยแลนด์ เบียร์ เฟสติวัล 2019” บริเวณโอเอซิส เอาท์ดอร์ อารีน่า โชว์ดีซี พระราม 9 ในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งในปีนี้มีจำนวนแบรนด์ที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 10 แบรนด์

ลุ้นรางวัลรหัสใต้ฝาโผล่

แหล่งข่าวจากวงการเบียร์เปิดเผยว่า ปกติแล้วหลังจากเทศกาลออกพรรษา ค่ายเบียร์ทุกค่ายจะเริ่มทำกิจกรรมการตลาดกันอย่างคึกคัก ทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรืออีเวนต์ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นมู้ดการจับจ่าย และบรรยากาศการเฉลิมฉลองปลายปี เนื่องจากเป็นหน้าขายสำคัญของธุรกิจนี้ แต่สำหรับปีนี้ ผลจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่เอื้อ ค่ายเบียร์จึงไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก จะมีเพียงเบียร์ช้างที่เปิดตัว “ช้าง 25 ปี โคลด์ บริว ลาเกอร์” ออกมาทำตลาด

ไฮไลต์ของสินค้าตัวนี้นอกจากจะเป็นเรื่องของวิธีการผลิตแบบใหม่แล้ว ยังพบอีกด้วยว่า ใต้ฝาของเบียร์ช้าง 25 ปี นี้มีรหัสใต้ฝาเป็นตัวเลข 6 หลัก และทำให้มีร้านค้าปลีก ร้านอาหาร ผับ บาร์หลายรายที่นำเอาไปจัดโปรโมชั่น “ลุ้นรหัสเลขท้าย” หากเปิดมาแล้วเจอรหัสที่ลงท้ายด้วย 25 ก็จะสามารถนำไปแลกรับเบียร์ฟรี 6 ขวด หรือบางร้านให้ 1 ลัง โดยพบลักษณะของการทำโปรโมชั่นเช่นนี้ในภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก

“การทำแบบนี้อาจจะเข้าข่ายกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกฎหมายการพนัน เนื่องจากตามกฎหมายห้ามทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ดื่ม ตลอดจนการชิงโชคแบบ instant win หรือเปิดปุ๊บได้รางวัลปั๊บก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ในทุก ๆ สินค้า”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ทำการสำรวจการพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิตของเบียร์ช้าง 25 ปี พบว่าบริษัทจะใช้วิธีการพิมพ์ลงบนฉลากข้างขวด เช่น 3009191A 15:20 แสดงว่าเบียร์ขวดนี้ได้บรรจุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2019 (พ.ศ. 2562) เวลา 15.20 น. เป็นต้น

และนอกจากการจัดกิจกรรมดังกล่าว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไทยเบฟฯยังได้ปรับลดราคาเบียร์ฮันทส์แมน และแบล็กดราก้อน ซึ่งเป็นเบียร์ทางเลือกใหม่ที่ต้องการจะชิงตลาดคราฟต์เบียร์ ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา จากเดิมวางขายในราคา 55 บาท เหลือ 50 บาท ในช่องทางร้านสะดวกซื้อ