เครื่องดื่มชูกำลัง3หมื่นล้านระอุรับปลายปี แรงเยอร์-แบรนด์ใหม่แห่ชิงเค้ก

“เอ็ม-150 คาราบาวแดง” เปิดศึกชิงดาต้า แจกโชคผ่านไลน์-เฟซบุ๊กขยายฐาน “เสริมสุข” รีแบรนด์ “แรงเยอร์” “คอมมานโด” คัมแบ็ก โผล่เป็นสปอนเซอร์อีสปอร์ต-ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ค่ายปูนทีพีไอส่ง “โปร 150” ชิงเค้กก้อนโต

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องดื่มชูกำลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีความเคลื่อนไหวทางการตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดของ 2 แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด คือ เอ็ม-150 (โอสถสภา) และคาราบาวแดง (คาราบาว กรุ๊ป) โดยหลัก ๆ เป็นการเดินหน้าทำกิจกรรมอีเวนต์ออนกราวนด์ที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอกย้ำแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย ล่าสุดทั้งคู่ยังส่งแคมเปญปลุกกระแสการรับรู้และสร้างแบรนด์ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลุ้นรางวัล ในช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่นไลน์ เพื่อสร้างฐานข้อมูล (data) ของตัวเอง และขยายฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่

โดยขณะนี้ เอ็ม-150 จัดแคมเปญ “มหกรรมแจกทองระดับแชมป์” ที่เปลี่ยนวิธีการลุ้นรับของรางวัล จากการส่งรหัสใต้ฝาใหม่ เป็นการส่งผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งผู้บริโภคที่เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องทำการลงทะเบียน สมัครสมาชิกผ่านไลน์ ออฟฟิศเชียล และกรอกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิดเบอร์โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ จากนั้นจึงส่งรหัสใต้ฝาผ่านแอปพลิเคชั่นได้ โดยของรางวัลหลัก ๆ ยังคงเป็น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และทองคำ

ส่วนคาราบาวแดงก็หันมาใช้ช่องทางของแอปพลิเคชั่นไลน์ ในการส่งรหัสใต้ฝากับแคมเปญ “พบสาวบาวแดง พบโชค” โดยผู้บริโภคที่ต้องการส่งรหัสสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ดที่อยู่ข้างขวดเพื่อแอดไลน์คาราบาว กรอกรหัส และข้อมูลส่วนตัวอย่าง ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ เพื่อลุ้นรับมอเตอร์ไซค์ และทองคำ รวมถึงสิทธิ์แลกซื้อคาราบาวแดง ในราคาขวดละ 2 บาท ซึ่งจะยิงยาวไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2563

“การที่ 2 ค่ายใหญ่ทุ่มงบฯกิจกรรมออนกราวนด์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นยอดขาย ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง เฉลี่ย 5-6% จากปกติที่จะทรงตัวหรือโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

Advertisment

กิจกรรมหนุนตลาดรวมโต

รายงานจากบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเอ็ม-150 เปิดเผยว่า การทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการนำเสนอความหลากหลายของตราสินค้า ทำให้บริษัทสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังด้วยมาร์เก็ตแชร์กว่า 53% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท และการเติบโตหลัก ๆ มาจากเอ็ม-150 โดยไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา รายได้รวมของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอยู่ที่ 5,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 413 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.4% แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 4,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 388 ล้านบาท หรือเติบโต 9.4% และตลาดต่างประเทศเติบโต 14%

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง 9 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 6.3% (ข้อมูลจากนีลเส็น)เติบโตทั้งเซ็กเมนต์ตลาดแมส หรือเครื่องดื่มชูกำลังแบบดั้งเดิม และตลาดนิชหรือเครื่องดื่มชูกำลังแบบอัดก๊าซ หรือพรีเมี่ยม ส่วนคาราบาวมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ประมาณ 22.7% เป็นอันดับ 2 ของตลาด สำหรับรายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 4,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.05% จากผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างคาราบาวกลิ่นกรีนแอปเปิ้ล ที่วางจำหน่ายไซซ์ใหม่ 180 มล. ราคา 15 บาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Photographer: Brent Lewin/Bloomberg via Getty Images

“แรงเยอร์” รีแบรนด์-ลุยอีกรอบ

Advertisment

แหล่งข่าวจากบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง(แรงเยอร์) “Ranger” เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการรีแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง แรงเยอร์ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “แรงเจอร์” โดยบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ มีการลดขนาดตัวอักษรลงจากเดิม แต่เพิ่มสัดส่วนของโลโก้รูปเสือให้เห็นเต็มหน้ามากขึ้น พร้อมกับข้อความที่บอกถึงส่วนผสมสำคัญ คือ วิตามินซี ที่เป็นจุุดแข็งของแรงเจอร์ในยุคแรก ๆ ที่วางตลาด นอกจากนี้ก็จะยังมีบี 6 และบี 12 ที่มีความโดดเด่น และยังคงจำหน่ายในราคา 10 บาทเท่าเดิม

ขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้เริ่มกระจายสินค้าเข้าสู่เทรดดิชันนอลเทรด ตัวแทนจำหน่ายในภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และจากนั้นจะกระจายเข้าสู่โมเดิร์นเทรดต่อไป พร้อมทั้งเริ่มทยอยสร้างการรับรู้ภายในองค์กร สายส่ง ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก ช่วยสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยอีกทาง ก่อนที่จะมีแคมเปญออกมาสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคเร็ว ๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมเครื่องดื่มชูกำลัง “แรงเยอร์” เป็นสินค้าในพอร์ตของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ที่ได้มาจากการซื้อกิจการบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ เมื่อช่วงปี 2551 และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ (2008) จำกัดจากนั้น ไทยเบฟฯก็ขายกิจการของแรงเยอร์ให้กับบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)ที่เป็นบริษัทในเครือ เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาเสริมสุขก็มีการทำตลาดแรงเยอร์มาเป็นระยะ ๆ ทั้งหนังโฆษณา กิจกรรมชิงโชค แต่ก็ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

น้องใหม่โดดร่วมวง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันแม้ว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะมีการแข่งขันสูง แต่ล่าสุดก็ยังมีผู้เล่นรายใหม่กระโดดเข้ามาเป็นระยะ ๆ เช่น ที่ผ่านมาบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ก็โดดเข้ามาในสมรภูมินี้ ด้วยการส่งเครื่องดื่มชูกำลัง “โปร 150” เข้ามาทำตลาดด้วยเช่นกัน โดยเน้นการวางขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ช่องทางออนไลน์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญเป็นระยะ ๆ เช่น เติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันทีพีไอ 400 บาท หรือเติม NGV 250 บาท รับโปร 150 จำนวน 1 ขวดนอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มชูกำลัง “คอมมานโด” ของบริษัท กรุงสยามเครื่องดื่ม จำกัด ที่เริ่มกลับมาทำตลาดใหม่ ด้วยการใช้แบรนด์คอมมานโด เข้าไปสนับสนุนกีฬาอีสปอร์ต และเป็นสปอนเซอร์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เพิ่งจบลงไป เพื่อสร้างแบรนด์และเข้าถึงทาร์เก็ตคนรุ่นใหม่ ๆ รวมทั้งมีการสื่อสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์กิจกรรม ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากก่อนหน้านี้ที่เน้นการทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ลาว เมียนมา และคาดว่าจะมีการทำตลาดที่มากขึ้นในเร็ว ๆ นี้