คาราบาวส่ง GALAXY บุกบรั่นดี เขย่า “รีเจนซี่-เมอริเดียน” ชิงตลาดแสนล้าน

สะเทือนวงการน้ำเมา “คาราบาว” คอนเฟิร์ม ! เมษาฯนี้ลอนช์บรั่นดีตัวใหม่ “GALAXY” ลงสนาม เขย่าบัลลังก์เจ้าตลาด “รีเจนซี่-เมอริเดียน” เผยทีเด็ดดึงอดีตคนปรุง-คิดสูตรบรั่นดียอดนิยมมาทำ เผยผลิตลอตแรก 7 หมื่นลัง ปูพรมทั่วประเทศ หวังเบียดแย่งตลาดวิสกี้ 1 แสนล้าน หลังพบพฤติกรรมนักดื่มไทยดื่มบรั่นดีเหมือนวิสกี้ ก่อนเตรียมแผนเปิดตัวเหล้าแคทิกอรี่ใหม่ชิงกำลังซื้อตลาดต่อเนื่อง

หลังจากที่กลุ่มผู้บริหารคาราบาว ทั้งเสถียร เศรษฐสิทธิ์ พี่แอ๊ด ยืนยง โอภากุล และพรรคพวก ได้ลงขันกันสร้างโรงเหล้าที่จังหวัดชัยนาท มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เมื่อปี 2560 และทำการเปิดตัวสินค้าแรกในกลุ่มเหล้าขาว ภายใต้แบรนด์

“ตะวันแดง” เป็นการเจาะขุมทรัพย์ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แม่ทัพใหญ่แห่งไทยเบฟเวอเรจ ที่ครองมาร์เก็ตแชร์ในตลาดเหล้าขาว มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เอาไว้อย่างเหนียวแน่นเกิน 95% และได้ทยอยออกโปรดักต์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเหล้าสี รวมถึงเหล้าขาวพรีเมี่ยม เทียบชั้นโซจูอย่างสุราข้าวหอม ที่ยกระดับภาพลักษณ์ของเหล้าขาวด้วยการใช้ขวดสีเขียวแทนขวดสีชา และหันมาใช้ข้าวหมักแทนน้ำตาลโมลาส และล่าสุดก็ถึงคราวของโปรดักต์ใหม่ “บรั่นดี”

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ตะวันแดง 1999 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุราขาว สุราสี ภายใต้แบรนด์ตะวันแดง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ล่าสุดบริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มบรั่นดี ภายใต้แบรนด์ GALAXY (กาแลคซี่) ภายในเดือนเมษายนนี้ โดยมีแผนจะจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ ทุกช่องทาง ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดิชั่นนอลเทรด ร้านซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้าน

Advertisment

โมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เป็นไปตามไปป์ไลน์ที่วางเอาไว้ เนื่องจากการตั้งโรงงานของบริษัทนั้นได้วางแผนการผลิตให้สามารถรองรับการทำสุราได้ทุกประเภทตั้งแต่แรก

โดยบรั่นดี “กาแลคซี่” ถือเป็นสินค้ารายการที่ 4 หลังจากการเปิดตัวเหล้าขาวตะวันแดง เหล้าสีตะวันแดง และตะวันแดงสุราข้าวหอมในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทมีความครบครันยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองกับโอกาสและความต้องการของตลาด

“เวลาเราบอกว่ามันเป็นบรั่นดี ดูเหมือนตลาดเล็ก ๆ นะ แต่ความจริงพฤติกรรมการดื่มของคนไทยดื่มบรั่นดีแบบเดียวกับวิสกี้เลย เติมน้ำแข็ง เติมโซดา แล้วบ้านเราตลาดวิสกี้ใหญ่มาก เป็นแสนล้าน”

ในขณะที่ภาพรวมของตลาดบรั่นดีนั้น มีคู่แข่งรายใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาดอย่างรีเจนซี่ แต่ก็มีกำลังการผลิตไม่มาก โดยลอตแรกกาแลคซี่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 60,000-70,000 ลังต่อปี และสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งมากกว่ากำลังการผลิตของเจ้าตลาดเสียอีก

Advertisment

“หมัดเด็ดอีกอย่างของเรา ก็คือ เราไปตามหาคน (ต่างชาติ) ที่ทำให้กับรีเจนซี่เมื่อ 30 ปีก่อนมาช่วยทำกาแลคซี่ให้ วางขายในราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง คือ 700 มล. เราน่าจะขายประมาณ 450 บาท คู่แข่งเขาขาย 480 บาท จึงค่อนข้างมั่นใจกับผลตอบรับในปีแรก”

สำหรับแผนต่อจากนี้ ตะวันแดง 1999 ก็ยังคงเตรียมจะเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ ๆ อีกหลายรายการออกมาอย่างต่อเนื่อง

นายเสถียรระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธุรกิจเหล้ามีเจ้าตลาดอยู่เพียงรายเดียว เมื่อมีแบรนด์ใหม่เข้ามาแบรนด์หลักก็จะหันมาเล่นเรื่องราคา แบรนด์เล็กจึงไม่มีทางไป ประกอบกับช่องทางกระจายสินค้าที่ไม่ครอบคลุมมากพอ สิ่งที่ตะวันแดง 1999 มี ก็คือโรงงานผลิตที่รองรับการผลิตสุราได้ทุกเซ็กเมนต์ และมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่เป็นหัวใจสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งครอบคลุมกว่า 3 แสนร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ผ่านบริษัท ตะวันแดง ซีดีเอ็ม จำกัด ที่ดูแลด้านระบบโลจิสติกส์ และการกระจายสินค้าเข้าร้าน

ตลาดบรั่นดีไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดบรั่นดีมีผู้นำ คือ แบรนด์รีเจนซี่ ด้วยมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 90% เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการของ “รีเจนซี่” ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายของ บริษัท โรงงานสุราพิเศษสุวรรณภูมิ จำกัด ของกลุ่มตระกูลโชคชัยณรงค์ พบว่าบริษัทมียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในปี 2561 มีรายได้รวม 7,876 ล้านบาท กำไรสุทธิ 828 ล้านบาท ปี 2560 รายได้รวม 7,394 ล้านบาท กำไร 775 ล้านบาท ปี 2559 รายได้รวม 6,517 ล้านบาท กำไร 363 ล้านบาท

ขณะที่ผู้เล่นรายอื่น ๆ ได้แก่ เมอริเดียน ซึ่งเป็นแบรนด์บรั่นดีของบริษัทไทยเบฟที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2553 ภายใต้กลยุทธ์ Premiumization เจาะตลาดพรีเมี่ยม และขยายพอร์ตโฟลิโอของเหล้าให้ครอบคลุมหลากหลายเซ็กเมนต์ มีการปรับโฉมภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้นในปี 2561 และในปีที่ผ่านมามีการจับมือกับเอเยนซี่อย่าง GREYnJ UNITED เพื่อทำแคมเปญสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ภายใต้ไอเดีย “ดีกว่าถ้าได้นั่ง” สื่อสารถึงการนั่งพูดคุย ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ อีกทั้งยังมีการใช้ช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยในการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย

ตลอดจนเฮนเนสซี่ บรั่นดี หรือคอนยัค จากบริษัทดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ เจ้าของเหล้าจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ สเมอร์นอฟ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีความพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นแบรนด์นอก ใช้การนำเข้า 100% ทำให้มีราคาต่อขวดสูงถึงกว่า 1,600 บาท (700 มล.) จึงมีกลุ่มผู้บริโภคที่ค่อนข้างนิช อย่างไรก็ตาม เฮนเนสซี่ได้เข้ามาสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสินค้า ตลอดจนการจัดกิจกรรมอีเวนต์ เช่น ปาร์ตี้ โดยศิลปินฮิปฮอปอย่าง “ทูพี” (TWOPEE) เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารีเจนซี่จะมีกำลังการผลิตที่ค่อนข้างจำกัด และกรรมวิธีของการผลิตบรั่นดีนั้นมีกระบวนการผลิตทั้งกลั่นและบ่มถึง 3 ปี ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสของขาดตลาดในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด และเทรดิชั่นนอลเทรด ตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นโอกาสให้กาแลคซี่เข้ามาอุดช่องว่างจากดีมานด์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการชูจุดขายที่มีอดีตชาวต่างชาติที่เคยทำให้รีเจนซี่มาช่วยดูการผลิตให้