“กัลเดอร์มา”ทุ่มงบฯ 100 ล้าน ส่งสินค้าเจาะตลาดไฮเอนด์

ลงทุนต่อ - กัลเดอร์มา ทุ่มงบฯ 100 ล้านบาท ทำการตลาด เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรงผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ตลาดหัตถการความงามโตกระฉูด พร้อมใจแข่งลดราคาดึงลูกค้า “กัลเดอร์มา” เปิดเกม ทุ่มงบฯ 100 ล้าน เร่งทำตลาดไฮเอนด์ เตรียมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ความงามเซ็กเมนต์ใหม่ เน้นจัดอบรมแพทย์เพิ่มความเชี่ยวชาญ เดินหน้าจับมือซิลลิค ฟาร์ม่า นำบล็อกเชนลดปัญหาสินค้าปลอม ก่อนเผยยอดขายปี 2562 เติบโต 30% ตั้งเป้าต้องการเป็น the most loved brand ในปีนี้

นายธวัชชัย บุญทวีกิจ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลผิวหนังรวมไปถึงด้านสุขภาพความงาม เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหัตถการความงามของไทย อาทิ การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ลบริ้วรอย มีแนวโน้มเติบโตจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปิดกว้างเรื่องการเสริมความงามมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมีการแข่งขันสูง โดยหลัก ๆ จะแข่งกันในแง่ของราคา เพื่อดึงผู้บริโภค สำหรับกัลเดอร์มา ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มแบรนด์พรีเมี่ยม จึงไม่ได้เน้นการแข่งขันด้านราคา โดยเน้นที่คุณภาพของแพทย์และผลลัพธ์ที่ได้มากกว่า ทำให้ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโต 30% ส่วนใหญ่มาจากการขายผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ไฮยาลูโรนิก ฟิลเลอร์ ตามด้วยนวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย และนวัตกรรมเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ปัจจุบันสามารถครองอันดับหนึ่งในเซ็กเมนต์สารเติมเต็มที่อยู่ภายใต้ตลาดธุรกิจความงามในประเทศไทยมาต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ใช้ทำการตลาดผ่านกลยุทธ์แบบ holistic approach เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรงผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสื่อสารนวัตกรรมความงามที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าเจาะลูกค้าในตลาดเซ็กเมนต์อื่น ๆ โดยแบ่งเป็นความต้องการของแต่ละวัย และการรักษาที่แตกต่างกัน และปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวนวัตกรรม ABO active 3D สารลดเลือนริ้วรอย ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นายธวัชชัยกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้มีแผนจะเพิ่มความสำคัญกับการทำตลาดมากขึ้น ทั้งการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนการเน้นพัฒนาความรู้ด้านความงาม เริ่มจากการจัดอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับเทคนิคการฉีดแบบพิเศษจากอาจารย์แพทย์ที่เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อความแม่นยำและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนร่วมมือกับบริษัท ซิลลิค ฟาร์ม่า หรือผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในไทย ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (block chain) มาใช้ในการบันทึกข้อมูลของผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยลดปัญหาสินค้าปลอม โดยระบบจะบันทึกข้อมูลสินค้าแต่ละกล่อง ตั้งแต่การผลิต จนถึงการนำส่งที่คลินิก โดยที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชั่น ภายใต้ชื่อ eZTracker ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเป็นของแท้ที่ถูกต้องจากทางบริษัท โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

Advertisment

นายธวัชชัยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจในไทยมากกว่า 6 ปี เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก คือ ยารักษาโรคผิวหนัง สารเติมเต็ม และสารลดเลือนริ้วรอย ซึ่งมีการพัฒนานวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดที่ต้องนำเสนอนวัตกรรมความงามที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของกัลเดอร์มา บริษัทแม่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ก่อตั้งมาแล้ว 40 ปี และมีเป้าหมายต้องการเป็น the most loved brand ให้ได้ในปี 2563 จากการบริการหลังการขาย ภายใต้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค