เครื่องใช้ไฟฟ้าภารตเดือด แบรนด์จีนแห่ทุ่มทุนผุดโรงงาน

ปีนี้การแข่งขันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีของอินเดียมีแนวโน้มทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้น เมื่อแบรนด์จีนหลายรายอาศัยจังหวะที่รัฐบาลยกเครื่องนโยบายภาษีสินค้าและบริการใหม่ ช่วยลดความซับซ้อนการเก็บภาษี เดินหน้าทุ่มงบฯหลายร้อยถึงหลายพันล้านเหรียญสหรัฐผุดโรงงาน รวมถึงเพิ่มกำลังผลิตในโรงงานเดิม รองรับดีมานด์ในประเทศกว่า 1.3 พันล้านคนในตลาดมูลค่า 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโตเท่าตัวใน 5 ปีที่ผ่านมา และ “สมาคมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดีย” คาดตลาดจะขยายตัวอีก 60% เป็น 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนปี 2559 โต 15% เป็น 27 ล้านเครื่อง รวมถึงรองรับส่งออก ทั้งยังเป็นการเสริมแกร่งไว้รับมือการแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่น-เกาหลีที่เข้ามาตั้งฐานก่อนหน้าแล้ว

สำนักข่าว “นิกเคอิ” รายงานว่า แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีสัญชาติจีนทั้ง “มีเดีย” (Midea) ฮองไฮ พรีซิชั่น หรือ “ฟ็อกซ์คอนน์” (Foxconn) และ “เสียวหมี่” (Xiaomi) ต่างประกาศขยายกำลังผลิตในอินเดียในเวลาไล่เลี่ยกัน

มีเดีย” ประกาศแผนลงทุน 123 ล้านเหรียญสหรัฐ สร้างโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและศูนย์วิจัยพัฒนาแห่งใหม่ในเมืองปูเน(Pune)จะเริ่มเดินเครื่องปลายปีนี้ ด้วยกำลังผลิตต่อปีที่ตู้เย็น 5 แสนเครื่อง เครื่องซักผ้า6 แสนเครื่อง เครื่องทำน้ำอุ่นอีก 1 ล้านเครื่อง ยังมีสายการผลิตชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่างคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์

แอนดี้ กู” รองกรรมการผู้จัดการของมีเดีย ระบุว่า การลงทุนนี้จะทำให้มีสายการผลิตสินค้าทุกชนิด จากเดิมที่มีเพียงโรงงานแอร์ ซึ่งร่วมทุนกับแคเรียร์ ส่วนศูนย์วิจัยฯจะช่วยให้พัฒนาสินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภคอินเดียโดยเฉพาะ เพิ่มศักยภาพแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลีที่เข้ามาทำตลาดก่อนหน้าหลายปีได้มากขึ้น

เช่นเดียวกับ “ฟ็อกซ์คอนน์” ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ซึ่งทุ่มเงินลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐสร้างโรงงานใหม่และขยายกำลังผลิตในโรงงานที่มีอยู่เดิมตามแผนจะพัฒนาอินเดียเป็นฮับส่งออกยุโรปและอเมริกา รวมถึงจะเปิดสายการผลิตไอโฟนรองรับตลาดอินเดียโดยเฉพาะ หลังค่าแรงในจีนปรับตัวสูงขึ้น

โดย “เทอรี่ โกว” ประธานของฟ็อกคอนยืนยันว่า บริษัทจะเดินหน้าตั้งโรงงานอีก 10-12 แห่ง ถึงปี 2563 เสริมกับโรงงานเดิมที่ประกอบสมาร์ทโฟนให้ออปโป้และเสียวหมี่ ซึ่งค่าแรงในอินเดียยังต่ำกว่าจีนอยู่มาก

ด้าน “เสียวหมี่” ปัจจุบันครองส่วนแบ่งอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียอยู่ระหว่างศึกษาแผนเปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนแบบครบวงจร จากที่ผ่านมาใช้วิธีนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบที่โรงงาน

มนูญ จันทร์” ผู้บริหารของเสียวหมี่ อินเดีย กล่าวว่า กำลังเจรจากับซัพพลายเออร์ให้เข้ามาเปิดโรงงานชิ้นส่วนในพื้นที่เดียวกับโรงงานประกอบ เพื่อรองรับตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียที่มีโอกาสโตอีกมากเนื่องจากอัตราครอบครองยังน้อย ปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพียง 40% ส่งผลให้ไตรมาส 4 ปีที่แล้วยอดขายของบริษัทเพิ่มถึง 40% ตั้งเป้าโตเท่าตัวจาก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561

นอกจากโรงงานแล้ว เสียวหมี่ยังตั้งเป้าขยาย “มี โฮม” (Mi Home) ร้านค้าออฟไลน์ในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ 100 สาขาใน 2 ปี หลังเปิดสาขาแรกที่บังคาลอร์เมื่อ พ.ค. เสริมศักยภาพทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมรับมือคู่แข่ง

การทุ่มลงทุนเหล่านี้ฉายให้เห็นถึงทั้งโอกาสและความดุเดือดของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า-ไอทีในอินเดีย ซึ่งต้องจับตาดูการทุ่มงบฯมหาศาลนี้จะส่งผลบวกตามที่แต่ละแบรนด์ตั้งเป้าไว้หรือไม่