สธ. เผยไทยฉีดวัคซีนทะลุ 35 ล้านโดส ขอประชาชนอย่าด้อยค่าซิโนแวค

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

สธ. เปิดข้อมูลยอดฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไทยทะลุ 35 ล้านโดส สูงวัยฉีดแล้วเกือบครึ่งประเทศ พร้อมวอนประชาชนขออย่าด้อยค่าซิโนแวค ชี้ช่วงวิกฤตจีนเจียดวัคซีนช่วยคนไทย แนะประชาชนเข้ารับวัคซีนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

วันที่ 4 กันยายน 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกในปัจจุบันสะสมอยู่ที่ 220 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,566,961 ราย ทั้งนี้ ประเทศที่มีการสูงสุดในขณะนี้คือ สหรัฐอเมริกา แม้จะมีการฉีดวัคซีนชนิด mRNA มากก็ตาม สะท้อนได้ว่าการฉีดวัคซีนอาจไม่เพียงพอ ต้องดำเนินการมาตรการอื่น ๆ อย่างเคร่งครัดควบคู่ไปด้วย

ขณะที่ประเทศไทยวันนี้ (4 ก.ย.) มียอดการติดเชื้ออยู่ที่ 15,942 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีมากถึง 257 คน เมื่อพิจารณาแล้วยังอยู่ในช่วงขาลง โดยภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มเป็นบวก การระบาดส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง และบางจังหวัดของภาคใต้

“แม้ภาพรวมจะมีสัญญาณบวก แต่ยังต้องคงมาตรการการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการจัดระบบสอบสวนโรค เพื่อค้นหาผู้ป่วยยังเป็นตัวแปรสำคัญ ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ยังต้องจับตาผู้ที่เข้ามาจากพื้นที่เสี่ยง พร้อม ๆ กับรับวัคซีนหากท่านเป็นบุคคลที่เข้าเกณฑ์”

สำหรับผลการฉีดวัคซีนโควิดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย.) ได้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 925,627 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 24,918,054 คน คิดเป็น 34.6% และเข็มที่ 2 จำนวน 9,698,842 คน คิดเป็น 13.5% โดยมียอดรวมฉีดสะสมที่ 35,218,164 โดส ขณะที่กลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุฉีดแล้ว 5,184,819 คน คิดเป็น 47.5% และในบางจังหวัด อาทิ กรุงเทพ ปทุมธานี สมุทรสาคร ชลบุรี ฉีดได้ถึง 50-70% แล้ว

นอกจากนี้ กรณีสถานทูตจีนได้ออกแถลงการณ์ในเฟซบุ๊กขอคนไทยอย่าด้อยค่าวัคซีนซิโนแวคนั้น ขอชี้แจงว่า ช่วงเวลาดังกล่าวราวเดือน ก.พ.-มี.ค. ที่มีการระบาดระลอก 2 จาก จ.สมุทรสาคร ขณะนั้นดีมานด์วัคซีนทั่วโลกขาดแคลนมาก

แต่ประเทศจีนได้เจียดวัคซีนมาช่วยประเทศไทย ประกอบกับข้อมูลทางวิชาการก็ได้รับรองประสิทธิภาพของซิโนแวค จึงถือว่าในครั้งนั้นซิโนแวคได้ช่วยคนไทยไว้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนทุกตัวหมด แต่ก็ไม่ได้แปลว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น สธ. ได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั่วไทย ปรับสูตรไขว้วัคซีนขึ้นมา เพื่อให้การฉีดไปได้ดี และทั่วโลกยอมรับขึ้น ซึ่งหลายประเทศก็มีการฉีด เช่น เยอรมัน มีเอกสารวิชาการตามมา

ส่วนการส่งมอบวัคซีนจากจีนทุกครั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลจีน และจีนเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องคอรัปชั่น เช่นเดียวกับไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า เป็นบริษัทระดับโลก หากมีเรื่องเงินทอน คงไม่นิ่งเฉยแน่นอน

“ขอความกรุณาประชาชนอย่าด้อยค่าวัคซีนทุกตัวที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่ประชาชนหลายคนกลัวการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ที่น่าเสียใจคือมีคนไทยหลายคนต้องเสียชีวิตก่อนเข้ารับวัคซีน ดังนั้นขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนอย่างครบถ้วนเพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน และขอยืนยันความโปร่งใส สธ. เรื่องการจัดหาวัคซีน ซึ่งยังถือเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลเป็นสิ่งสูงสุด”