การตลาด

เครื่องคั่วกาแฟโตสวนโควิด “ชาลอตโต้” ชูเงินผ่อนเจาะคนรุ่นใหม่

ตลาดเครื่องคั่วกาแฟอนาคตสดใส “ซาลอตโต้” ขยายพอร์ตโฟลิโอ เปิดตัว PROBAT เครื่องคั่วกาแฟเจาะ new roaster สาย specialty coffee งััดระบบผ่อนชำระเพิ่มทางเลือก มั่นใจสิ้นปี’65 โตเพิ่ม 35%

นายอภิชา แย้มเกษร ผู้ก่อตั้ง บริษัท ซาลอตโต้ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องคั่วกาแฟ PROBAT เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น แม้หลายภาคส่วนจะได้รับผลกระทบแต่ในส่วนของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก แม้ว่ายอดขายกาแฟคั่วจะลดลงเกือบ 40% แต่ยอดขายของเครื่องคั่วกาแฟกลับโตขึ้นถึง 200%

เนื่องมาจากเทรนด์การบริโภคกาแฟที่กำลังได้รับความนิยม ประกอบกับเทรนด์ร้านกาแฟที่กำลังมาแรงในขณะนี้ส่งผลให้ตลาดในกลุ่มเครื่องชงกาแฟและคั่วกาแฟได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ล่าสุดเพื่อเป็นการรองรับแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว บริษัทจึงได้เปิดตัวเครื่องชงกาแฟ PROBAT เครื่องคั่วกาแฟที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ผสมผสานในการทำงาน และจุดเด่นอีกอย่างคือระบบของ drum หรือถังคั่วที่มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเมล็ดกาแฟได้ดีได้รับความร้อนอย่างทั่วถึงและสุกเสมอกัน รวมทั้งยังมีระบบการดูแล service ลูกค้าที่ดี

โดยการขยายตลาดในครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาคือคนกลุ่ม new roaster ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกาแฟ นอกเหนือจากกลุ่มพรีเมี่ยมที่ทำโรงคั่วกาแฟระดับมืออาชีพอย่างที่ผ่านมา คนกลุ่มใหม่นี้มีความต้องการที่จะคั่วกาแฟในสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นก็จะสามารถเข้าถึง PROBAT ได้ง่ายขึ้น

โดยจะเน้นไปที่เครื่องคั่วกาแฟขนาดเล็ก (1-12 กิโลกรัม) ในราคาที่รวม option ทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะมีการนำระบบผ่อนชำระที่จะเข้ามาช่วยเสริมในส่วนนี้ด้วย เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า รวมถึงรองรับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อสร้างทางเลือกให้ลูกค้าอีกด้วย

ก่อนที่ในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเปิดตัวเครื่องคั่วกาแฟขนาดเล็ก ขนาด 1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องคั่วกาแฟรุ่นนี้จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าร้านกาแฟที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น หลังปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว P Series ที่เปิดตัวไปล่าสุด ที่มีจุดเด่นการนำเอามาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เมื่อคั่วกาแฟจบแล้วก็สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ เมื่อต้องการคั่วกาแฟซ้ำก็สามารถทำซ้ำได้เองโดยอัตโนมัติ

รวมถึงว่าหากทำในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ตัวเครื่องก็จะปรับเปลี่ยนให้เองอัตโนมัติด้วย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

“เรามีเป้าหมายในการนำกาแฟที่โดดเด่นในเรื่องของคุณภาพที่สามารถทำซ้ำได้และมีในปริมาณมากออกสู่ตลาด เน้นการใช้เครื่องคั่วที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมการคั่วกาแฟ โดย Salotto ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน PROBAT Authorized Dealer เจ้าเดียวในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม”

ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายในสิ้นปี 2565 ไว้ที่ 20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเท่ากับ 35% พร้อมกับมีแผนการขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว และพม่าในอนาคต

“สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องคั่วกาแฟทุกระดับนั้น PROBAT มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% โดยเครื่องคั่วกาแฟกลุ่มพรีเมี่ยมนั้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 65% ขณะที่ยอดรวมของตลาดกาแฟไทยในปี 2563 มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท และหดตัวลง 10-50% โดยวางเป้าหมายไว้ว่าปีนี้จะต้องเพิ่มมูลค่าการขยายตัวของยอดขายกาแฟให้ได้ 20-30% และเครื่องคั่วกาแฟ 35%”