‘พิซซ่าฮัท’ เร่งเครื่องสู้ศึกตลาดพิซซ่า

“พิซซ่า ฮัท” เคลื่อนทัพรอบใหม่ มุ่งโฟกัสวิจัยความต้องการผู้บริโภค ก่อนส่งพิซซ่าหน้าใหม่ อัดโปรโมชั่นบุกออนไลน์ดึงความต้องการลูกค้า ประกาศเดินหน้าปูพรมสาขาใหม่ เน้นไซซ์เล็ก เจาะพื้นที่กรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รองรับเทรนด์ตลาดดีลิเวอรี่โต พร้อมชูแอปซีอาร์เอ็ม เพิ่มสู้ศึกพิซซ่า 1.4 ล้าน แข่งเดือด

นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด แฟรนไชส์ร้านพิซซ่า ฮัทประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา

ทำให้องค์กรต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาระบบการทำงานภายใน รวมไปถึงการปรับการบริหารงานให้มีความคล่องตัว ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนทัศนคติของพนักงานให้มองเป้าหมายไปทิศทางเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ในฐานะผู้ประกอบการต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างตรงจุดและชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีและโลกออนไลน์พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้องสามารถคาดการณ์สถานการณ์ในตลาด รวมถึงเทรนด์ในอนาคต ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมาก

“ที่ผ่านมาบริษัทมีการทำวิจัยร่วมกับบริษัท YouGov เพื่อติดตามดูพฤติกรรม ทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์พิซซ่า ฮัท และคู่แข่งในตลาดพิซซ่า และทำงานกับมีเดียเอเยนซี่

หรือคู่ค้าไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Line เพื่อให้เข้าใจระบบ algorithm, AI, ML ของแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปปรับปรุงให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป”

ซีอีโอ บริษัท พีเอช แคปปิตอล กล่าวด้วยว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดปีนี้ หลัก ๆ บริษัทยังให้ความสำคัญในการขับเคลื่่อนธุรกิจหลังโควิด ด้วยการมุ่งโฟกัสกลยุทธ์ “Best Product, Easiest, Tastiest, Fastest Delivery and Safest”

เพิ่มความแข็งแกร่ง สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ด้วยการนำเสนอสินค้าให้เข้าไปอยู่ในทุกโอกาสการรับประทานของผู้บริโภค เช่น การออกพิซซ่าหน้าใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม

และการทำ collaboration ร่วมกับแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อขยายฐานลูกค้าร่วมกันรวมถึงนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการใช้ big data ที่มีอยู่ เพื่อทำ personalizedmarketing ให้กับลูกค้า โดยใช้วิธีการปฏิบัติงานจาก know how และอินโนเวชั่นจาก Pizza Hut Global เข้ามาช่วยสนับสนุน

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมขยายสาขาเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ทั้งบริการที่เป็นไดรฟ์อินและดีลิเวอรี่ จากปัจจุบันร้านพิซซ่า ฮัท มีร้านหลายขนาด ขึ้นอยู่กับพื้นที่และจังหวัด

โดยแนวทางอย่างหนึ่งที่วางไว้ก็คือจากนี้ไป การขยายร้านจะมีไซซ์เล็กลง โดยขนาดครัวเท่าเดิม แต่ลดจำนวนที่นั่ง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด จากปัจจุบันมีสาขาประมาณ 177 สาขาใน 50 จังหวัด และวางเป้าหมายในอีก 3 ปี เพิ่มสัดส่วนสาขาในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯอยู่ที่ 50 : 50

พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักระบบ CRM application (customer relationship Management) เป็นแพลตฟอร์มใช้ทำการตลาด คอนเทนต์ที่โดนใจผู้บริโภค รวมถึงการจัดการส่งเสริมการขายหรือข้อเสนอสินค้าแคมเปญต่าง ๆ

เพื่อเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อให้สูงขึ้น เช่น การส่งเอสเอ็มเอส ให้ส่วนลดแก่ลูกค้าที่ inactive เพื่อให้กลับมาซื้อซ้ำ การ segmentation ลูกค้าตาม ticket size ของลูกค้า และส่งรายการส่งเสริมการขาย เพื่อให้มี ticket size ที่สูงขึ้น

นางสาวอุษณากล่าวต่อว่า ปัจจุบันหัวใจหลักของธุรกิจคือ ทรัพยากรบุคคลจะต้องมีความรู้ความสามารถ ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้เร็วกว่าคู่แข็ง ซึ่งร้านพิซซ่า ฮัท เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ต้องรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐานตรงกันทุกสาขา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดพิซซ่าที่มีมูลค่ารวมราว ๆ 14,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ยังชะลอตัว โดยมีผู้เล่นในตลาดอยู่เพียง 3 ราย และเป็นตลาดที่แข่งขันค่อนข้างสูง

ทั้งในแง่ของการเพิ่มความหลากหลายของเมนู แคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดระบาด แม้ทราฟฟิกในศูนย์การค้าลดลง แบรนด์ต่าง ๆ ได้หันมาพึ่งช่องทางดีลิเวอรี่มากขึ้น

เช่นเดียวกับ พิซซ่า ฮัท ได้รับอานิสงส์จากความถี่ในการสั่งอาหาร ทำให้มียอดขายเติบโตขึ้น ปัจจุบันช่องทางดีลิเวอรี่ของพิซซ่า ฮัท เติบโตขึ้น 28% หลัก ๆ มาจากการนำเสนอบริการส่งพิซซ่าแบบไร้สัมผัส และเสริมทัพพนักงานจัดส่ง Wow Boy ไว้มากกว่า 1,500 คน ควบคู่กับช่องทางพันธมิตรบริการจัดส่งอาหาร เช่น แกร็บ, ไลน์แมน, ฟู้ดแพนด้า และโรบินฮู้ด