ซีเอ็มโอ ปรับองค์กรครั้งใหญ่ ดึง “อริยะ พนมยงค์” เสริมทัพลุยเทคโนโลยี

“ซีเอ็มโอ” ยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ ดึง “อริยะ พนมยงค์” ขึ้นแท่นผู้บริหารร่วม ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจจากอีเวนต์สู่บริษัทเทคโนโลยีในรูปแบบของ experience-tech creator พร้อมทุ่มงบฯ 800 ล้าน ขยายธุรกิจใหม่ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์-เทคโนโลยี มั่นใจทำรายได้ 2,000 ล้านภายในสิ้นปี

นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซีเอ็มโอจากเดิมเป็นนักวางแผนงานอีเวนต์สิ่งที่มอบให้ลูกค้า B2B และ B2C เป็น total solution ประกอบด้วย creativity และเทคโนโลยี

เพื่อเป็นประสบการณ์ในยุคใหม่ จึงเกิดเป็นที่มาของนิยาม “experience-tech creator” ภายใต้โครงสร้าง 5E ได้แก่ ธุรกิจหลักเดิมอย่างอีเวนต์ กับ equipment ซึ่งเป็นฐานรายได้หลัก และล่าสุดได้ทุ่มงบฯ 800 ล้านบาท ขยายธุรกิจใหม่ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์-เทคโนโลยี โดยจะเข้ามาเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับซีเอ็มโอนิวเจน

สำหรับธุรกิจอีเวนต์มีแผนเติบโตด้วย homegrown experience brand รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างงานระดับงานเวิลด์คลาสที่มีประสบการณ์ในประเทศไทย ที่จะดึงดูดนักเดินทางจากต่างประเทศ

และเพิ่มขีดความสามารถเพื่อส่งออกแบรนด์ได้ในอนาคต ถัดมาคือเตรียมยกระดับอุปกรณ์แสง เสียง ภาพ ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบกิจกรรม ตั้งแต่งานอีเวนต์ สตูดิโอ และคอนเสิร์ต ด้วยการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ

ส่วนธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งด้าน inbound live entertainment experience พร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงเต็มตัว เพื่อสร้างความบันเทิงเต็มรูปแบบทั้งระดับเอเชียและระดับโลก

พร้อมดึงงานระดับ world festival เข้ามาในประเทศไทยและยังมีแผนสร้าง original content ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ขึ้นมาไม่ซ้ำหรือเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ ในตลาด ในนามซีเอ็มเอ็นเตอร์เทนเม้นท์

รวมถึงกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการตลาดครบวงจร ที่ซีเอ็มโอควบรวมเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ได้แก่ ดิจิทัล เอเจนซี่, social listening การเก็บข้อมูลของผู้บริโภค, influencer platform, employee engagement platform และซีอาร์เอ็ม

ตามด้วยกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่ตอบโจทย์ธุรกิจแห่งอนาคต ประกอบด้วย เมตาเวิร์ส สตูดิโอ ซึ่งซีเอ็มโอได้ร่วมมือกับบริษัทบล็อกเชนระดับโลก รวมถึงการสร้าง digital assets ที่มาเชื่อมโยงกับธุรกิจบันเทิง

และ decentralized commerce เป็นต้น โดยการจับมือกับ strategic tech พาร์ตเนอร์ 6 ราย เพื่อเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

พร้อมกันนี้ ทุก ๆ ธุรกิจจะดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ ประกอบด้วย digital transformation, digital agency, employee engagement platform, social listening partner, affiliate commerce และ loyalty platform ซึ่งจะนำบริษัทก้าวไปสู่การทำธุรกิจระดับเอเชียและระดับโลกต่อไป

ปัจจุบันด้วยพื้นฐานธุรกิจที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ปี 2565 บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ 2,500 ล้านบาท มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจเดิม(อีเวนต์และอีควิปเมนต์) 70% มูลค่า 1,300-1,500 ล้านบาท 2.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ 20% มูลค่า 500-800 ล้านบาท และ 3.เทคโนโลยี 10% มูลค่า 400-500 ล้านบาท