หลังนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทยประกาศความมุ่งมั่น ว่าจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง “นิสสัน ลีฟ” เข้ามาทำตลาดในประเทศ
นิสสันใช้ระยะเวลาในการศึกษา และเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จนมั่นใจสูงสุดว่า ลูกค้าชาวไทย จะให้การตอบรับรถไฟฟ้าคันนี้
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ล่าสุด นิสสันใช้ในเวที “มอเตอร์เอ็กซ์โป” ครั้งที่ 35 เพื่อเปิดตัว นิสสัน ลีฟ ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมกับการพัฒนาเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ไกลขึ้น พร้อมเทคโนโลยี
ที่ล้ำสมัยด้วย นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan intelligent mobility) กับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (intelligent driving),เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (intelligent power),เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ
อัจฉริยะ (intelligent integration) ด้วยอี-เพดัล (e-Pedal) และนิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan safety shield) เพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ลดความเร็ว หยุดนิ่งและควบคุมตัวรถให้อยู่กับที่ ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัดแน่นเต็มคัน ทั้งการชนด้านหน้า, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน, กล้องมองภาพรอบทิศทาง ฯลฯ
ขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-Powertrain) ที่ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ด้วยกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที และยังวิ่งได้ไกลขึ้นกว่าเดิม
นิสสัน ลีฟ ใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนชุดใหม่ ด้วยการปรับปรุงใหม่เกิดขึ้นภายในโครงสร้างแต่ละเซลล์ในแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนชนิดอัดซ้อน (laminated lithium-ion battery) ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้น 60%
มาพร้อมด้วยระบบ vehicle-to-grid ของแบตเตอรที่สะสมพลังงานให้มากที่สุด จากพลังงานส่วนเกินในเวลากลางวัน เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้งานภายในบ้านช่วงกลางคืน การเชื่อมต่ออัจฉริยะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนภูมิทัศน์ด้านพลังงานอย่างสิ้นเชิง
ทีมวิศวกรพัฒนาโครงสร้างของลีฟ ใหม่ ให้มีเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้น มีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
ได้รับออกแบบด้วยแนวทาง “cool tech attitude” ด้วยกระจังหน้าแบบ V-motion, ไฟรูปทรง “บูมเมอแรง” แนวเส้นหลังคาแสดงให้เห็นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และลวดลายตาข่ายสีน้ำเงินสว่างแบบสามมิติโดดเด่นสะกดทุกสายตา เสริมความโดดเด่นให้กับกระจังหน้าแบบ V-motion เสริมความพิเศษเฉพาะตัว ในฐานะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์แบบคู่ รองรับการทำงานทั้งไฟต่ำ และไฟสูง ชุดไฟท้ายมีความโดดเด่น ติดตั้งสปอยเลอร์เสริมความสปอร์ตและสะดุดตา ช่องเสียบสายชาร์จไฟบริเวณด้านหน้ารถออกแบบใหม่เพื่อให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ห้องโดยสารเน้นบรรยากาศหรูหรา แฝงความเรียบง่าย ทันสมัย หน้าจอและรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลมองเห็นได้ชัดเจน การผสมผสานระหว่างมาตรวัดความเร็วแบบแอนะล็อกกับหน้าจอแสดงผลแบบ multiinformation ด้านซ้าย หน้าจอสีแบบ thin-film transistor (TFT) ขนาด 7 นิ้ว บอกปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใช้ตามการกำหนดค่ามาตรฐาน โดยคนขับสามารถเลือกแสดงข้อมูลตามที่ต้องการ
หน้าจอแสดงผลตรงกลางแบบ flush-surface ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการเลือกระบบความบันเทิง แสดงให้เห็นการทำงานของเทคโนโลยี safety shield ระดับการชาร์จไฟของรถ พลังงานที่เหลืออยู่ ระบบเสียง และข้อมูลระบบนำทางบริเวณเบาะนั่ง ด้านข้างประตู ที่วางแขน และพวงมาลัย เดินตะเข็บการเย็บสีฟ้า
สัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้านิสสัน ใช้โทนสีน้ำเงินกับปุ่มสตาร์ต เกียร์ เพิ่มความรู้สึกล้ำสมัย คอนโซลด้านหน้าออกแบบใหม่ ห้องโดยสารจึงรองรับผู้โดยสาร 5 คน พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่มากขึ้น
นิสสัน ลีฟ ใหม่ มาพร้อมกับสีแบบทูโทน ภายใต้ตัวถังสีขาว brilliant white pearl และด้านบนหลังคาสีดำ super black โดยนิสสันให้รับประกันรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รับประกันระบบไฟฟ้ารถยนต์เป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร นิสสันจำหน่าย ลีฟ ในราคา 1.99 ล้านบาท พร้อมที่โชว์รูมทั้ง 33 แห่ง ซึ่งจะเริ่มส่งมอบ ลีฟ ได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปีหน้า