เบนซ์เด้งรับแพ็กเกจ EV ส่ง “อีคิวเอส” ลุยตลาด

The new EQS 450+ AMG Premium and Mercedes-Benz S580 e AMG Premium

“เมอร์เซเดส-เบนซ์” เด้งรับแพ็กเกจอีวีรัฐบาลไทย เตรียมประกาศ “อีคิวเอส” เร็ว ๆ นี้ ปลื้มผลประกอบการปี’64 กลุ่มรถไฮเอนด์และรถพลังงานไฟฟ้าวิ่งฉิว ดันยอดขายรวมโต 13% เร่งแตกซับแบรนด์เพิ่มหลังบริษัทแม่เปลี่ยนชื่อจาก “เดมเลอร์ เอจี” เป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี” มีผลตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ พร้อมจะประกาศราคาขายเมอร์เซเดส-อีคิวเอส รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งพร้อมขึ้นไลน์ผลิตในไทยตามนโยบายส่งเสริมของรัฐบาลไทย และเชื่อว่าเมอร์เซเดส-อีคิวเอส จะได้การตอบรับที่ดีด้วยสเป็กและสมรรถนะ มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งทำงานโดยแบ่งหน้าที่กัน ระหว่างการขับเคลื่อนล้อหน้า และชุดล้อหลัง ให้แรงม้าสูงสุดจะอยู่ที่ 200 กิโลวัตต์ หรือ 268 แรงม้า ความเร็ว 0-100 ได้ในเวลา 5 วินาที สามารถวิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

โรลันด์ โฟล์เกอร์
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

“ลูกค้าเตรียมรอฟังข่าวดีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเรา ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่อย่างเป็นทางการของการนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย นอกจากนี้ อีกหนึ่งความพิเศษของปี 2564 คือการที่เราได้รับรางวัล บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียปี 2021 จาก HR Asia สะท้อนถึงการทำงานด้วยความมุ่งมั่นของพวกเราทุกคนที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างดีที่สุด”

นายโฟล์เกอร์กล่าวว่า แม้ตลาดรถยนต์ลักเซอรี่ในไทยปี 2564 ที่ผ่านมา จะหดตัวลง 9% แต่ยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กลับเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่เติบโตขึ้นถึง 14% ถือว่าเราเดินมาถูกทางสำหรับการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ การแตกซับแบรนด์ ซึ่งตอนนี้มีถึง 4 ซับแบรนด์ ได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์, เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี, เมอร์เซเดส-มายบัค และเมอร์เซเดส-อีคิว ยังสอดรับการเปลี่ยนชื่อของบริษัทแม่จาก “เดมเลอร์ เอจี” มาเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี” ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

Advertisment

ด้านนายบีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2564 เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เรามองเห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการของผู้บริโภคนั้นเพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งปี ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายรถยนต์คอมแพ็กต์ของเราเพิ่มขึ้น 58% หลังการเปิดตัวรถยนต์รุ่นเอ-คลาสใหม่ และรุ่น GLA ใหม่ ในขณะที่ในกลุ่มรถยนต์ลักเซอรี่และกลุ่มเอสยูวีมียอดขายเพิ่มขึ้น 27% และ 29% ตามลำดับ

“ในกลุ่มรถยนต์คอมแพ็กต์นั้น หากรวมกับยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง ยอดขายของรถยนต์กลุ่มนี้นับว่าเติบโตขึ้นถึง 113% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่ารถยนต์รุ่นนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคชาวไทย ส่วนภาพรวมของไตรมาส 4 ยอดขายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มขึ้น 28.1%”

“นอกจากนี้ ยอดขายของรถยนต์รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด ยังมีการเติบโตขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่สุดในตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริด ระดับลักเซอรี่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถปิดปี 2564 ด้วยยอดขายรวมที่เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าตลาดรถยนต์ลักเซอรี่ โดยรวมในปี 2564 จะหดตัวลง 9% ก็ตาม”

สำหรับปี 2565 นี้ นอกจากแคมเปญการตลาดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมนำมาสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดแล้ว เรายังได้เตรียมรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งจากทั้ง 4 แบรนด์ Mercedes-Benz, Mercedes-EQ, Mercedes-Maybach และ Mercedes-AMG โดยมี “The new EQS” เป็นไฮไลต์ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่จะผลิตและวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งในตอนนี้ มีลูกค้าแสดงความสนใจผ่านช่องทางดิจิทัลมามากกว่า 500 ราย ทั้งที่งานมหกรรมยานยนต์และการจัดงานเปิดตัวพิเศษที่เซ็นทรัลเวิลด์และเอ็มโพเรียมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

Advertisment

นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2565 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเสมอ ทั้งในส่วนของการนำเสนออะไหล่ Star Parts และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นยังนำเสนอ Mercedes me Store ลูกค้าสามารถเลือกซื้อออปชั่นเพิ่มเติมได้

นายศุภวุฒิ จีรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปี 2564 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย มียอดธุรกิจรวมมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท และในปี 2565 เรามีกลยุทธ์ที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเรา โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า เพื่อการครอบครองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงข้อเสนอสุดพิเศษที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับลูกค้าปัจจุบัน