คอลัมน์ : SD Talk ผู้เขียน : พิชญ์พจี สายเชื้อ
วันก่อนประชุมกับ CEO บริษัทในธุรกิจการเงิน (ประกัน) ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านได้ปรับเปลี่ยนองค์กรจากองค์กรที่มีลุก conservative มาเป็นองค์กรที่มีนิวลุกสมัยใหม่ มีผลประกอบการที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน และสำคัญที่สุด ผล engagment ของพนักงานคือ 90% + ติดต่อมามากกว่า 5 ปี สูงมาตลอดจนไม่รู้จะปรับปรุงตรงไหนแล้วเราคุยกันเรื่องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรของท่าน ซึ่งมีคำพูดหนึ่งน่าสนใจมาก ท่านบอกว่า…
การสร้างการเปลี่ยนแปลงคือการพาพนักงานออกจาก comfort zone เดิมให้ได้ และที่สำคัญคือการสร้าง comfort zone ใหม่ให้เขาด้วย ไม่ใช่พาเขาออกไปที่ไหนไม่รู้ ที่เขาไม่คุ้น ไม่ comfort เขาก็ไม่อยากออกมาสิ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ซึ่งดิฉันเห็นด้วย และไม่ค่อยเคยมีใครพูดแบบนี้เลยคิดว่าลองมาถอดรหัสความสำเร็จในการสร้างความเปลี่ยนแปลงขององค์กรนี้ และผู้นำท่านนี้ดีกว่า…ตามมาฟังกันค่ะ
อย่างที่เล่าว่าองค์กรนี้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเป็นองค์กรขนาดใหญ่ conservative พนักงานทำงานตามสั่ง (เหมือนทหาร บอกให้ทำอะไรก็ทำ) มีความจงรักภักดีต่อองค์กรสูงมาก แต่ไม่สร้างผลผลิตที่ดีนัก เพราะทุกคนอยู่ใน comfort zone แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของพนักงาน เพราะเขาไม่เคยได้รับการเทรน การฝึกอบรมต่าง ๆ พอมาวันหนึ่งมาบอกให้เขาคิดเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้น เมื่อผู้นำท่านนี้เข้ามาบริหาร และสิ่งที่ท่านเริ่มทำคือการสร้าง trust ในตัวท่านต่อพนักงานก่อน โดยการทำตัวให้ “เข้าถึง” ใครอยากคุย อยากเสนอความเห็นกับท่าน ทำได้หมด ท่านเป็นทั้งนักฟัง และนักพูดที่ดี ท่านเริ่มเรียนรู้ธุรกิจทุกด้าน โดยเฉพาะด้านที่เป็นหลักของบริษัท (ท่านเป็นผู้บริหารในองค์กรมาก่อน แต่ท่านดูงานบางด้านเท่านั้น ด้านหลักท่านไม่ได้ดูมาก) ท่านไม่อายที่จะถาม (ลูกน้อง) ถ้าไม่รู้ ท่านลงพื้นที่ (บริษัทมีสาขามากมายทั่วประเทศ) พูดคุยกับพนักงานทุกระดับ ทุกพื้นที่
เมื่อท่านเริ่มเข้าใจธุรกิจทุกด้าน ท่านเริ่มคิดกลยุทธ์ใหม่คือการเป็น digital insurer มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมที่นำสมัย และใช้ technology เป็นตัวช่วย
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว การทำ digital transformation ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายอย่างปัจจุบัน ท่านต้องสื่อสารเยอะมาก สร้างความเข้าใจ (ไม่ใช่ชัดเจนนะ เพราะไม่มีใครเข้าใจชัดเจน ณ วินาทีนั้น) สร้างความมั่นใจให้พนักงานรู้สึกว่า “มันเป็นไปได้ เราเดินไปด้วยกัน”
“ลองผิดลองถูกด้วยกัน ไม่ต้องกลัวผิด ผิดเป็นครู”
ท่าน walk the talk แบบนี้มาเป็นสิบปี กว่าพนักงานจะเริ่มเข้าใจ เห็นภาพ และ buy-in (เอาล่ะ คุณ CEO ไปไหน ชั้นไปด้วย) นี่คือการสร้าง comfort zone ใหม่ให้พนักงาน จาก comfort zone เดิมที่พวกเขาเคยคิดว่าต้องทำตามสั่ง จะได้ไม่ผิด (แต่ไม่ได้ผลงานนัก) มาเป็น comfort zone ใหม่ ด้วยการคิดใหม่ ทำใหม่ ทำผิดได้ ไม่เป็นไร เรียนรู้ไปด้วยกัน ผิดเป็นครู
เห็นมั้ยคะว่าการนำพนักงานออกจาก comfort zone เก่า แล้วสร้าง comfort zone ใหม่ ที่ comfort ระดับหนึ่ง (ท่านบอกว่า ต้อง comfort ระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่ comfort มากเดี๋ยวเหมือนเดิม) แล้วจูงมือพาเขาออกมาด้วยกัน ก็ทำได้ และทำได้ดีซะด้วย
สรุป Key Success Factor ของการสร้างการเปลี่ยนแปลงของบริษัทนี้ คือ “ผู้นำ”
การมีผู้นำที่สร้างฝันมาสู่ความจริง การทำให้พนักงานเข้าใจวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ จนเกิดความเชื่อมั่น และสุดท้ายทุกคนพยายามทำตามในส่วนของตัวเองให้ได้ ด้วยการนำพนักงานออกมาร่วมเดินทางใหม่ไปด้วยกันกับความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ การสร้างความเปลี่ยนแปลงจะสำเร็จไม่ได้ ถ้าผู้นำไม่สร้าง trust ในตัวเองก่อน ไม่มีใครอยากเดินตามคนที่เขาไม่ trust หรอกค่ะ (เดียวพาลงเหวทำไง 555)
อีกส่วนที่สำคัญที่ผู้นำท่านนี้ย้ำตลอดเวลาคือ พนักงานต้องมีคุณลักษณะสำคัญ คือ 1) มี deep accountability การมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ (ความรับผิดชอบต่องาน) และยินดีทำงานเกิน scope เพื่อให้งานสำเร็จในภาพรวม
2) มี growth mindset พนักงานต้องเปิดใจ พร้อมเปลี่ยนแปลง anything is possible และ 3) มี learning agility พนักงานต้องมีความใฝ่รู้ อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ต้องเรียนรู้ทันโลกตลอดเวลา การใฝ่รู้จะช่วยให้เขาสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ รวมถึงปรับปรุงการทำงานประจำให้ดีขึ้นได้ทุกวัน
