
เดือนกรกฎาคมของทุกปีถือว่าเป็นช่วงต้นฤดูฝน
เรื่องน้ำไม่น่าจะใช่ปัญหา
เกษตรกรน่าจะยิ้มรับฝนที่ตกลงมา
แต่ปีนี้กลับกลายเป็นว่าเกิดภัยแล้งในช่วงฤดูฝน
ปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงน่ากลัวมาก
ต้องเก็บกักไว้เพื่อบริโภคอย่างเดียว
ไม่สามารถปล่อยน้ำมาช่วยเกษตรกรได้
ตอนแรกที่เห็นข่าวนี้ตกใจเลยครับ
ตกใจ 2 เรื่อง
เรื่องแรก รัฐบาลบริหารจัดการอย่างไร
แม้เรื่องฝนฟ้าอากาศเป็นเรื่องยากที่จะวางแผนจัดการ
ไม่มีใครทายได้ล่วงหน้าว่าปีนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนจะมากหรือน้อย
เรื่องนี้เข้าใจได้
แต่ทราบไหมครับว่า วันนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ 4 แห่ง เหลืออยู่เท่าไร
เขื่อนภูมิพล มีปริมาตรน้ำที่ใช้การได้ 10% ของความจุอ่างเก็บน้ำ
เขื่อนสิริกิติ์ ใช้การได้ 7%
เขื่อนแควน้อยฯ ใช้การได้ 10%
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลือใช้การได้ 4%
สิ่งแรกที่ทุกเขื่อนต้องทำ คือ เก็บกักน้ำไว้เพื่อการบริโภคก่อน
น้ำเพื่อการเกษตรเอาไว้ก่อน
คำถามก็คือ ทำไมรัฐบาลปล่อยให้น้ำ
เหลือใช้การได้ไม่ถึง 10% แบบเงียบ ๆ
อย่าลืมว่า “น้ำ” ไม่ได้ลดลงทันทีทันใด
มันต้องค่อยลดลงมา
แต่ทำไมรัฐบาลไม่ส่งสัญญาณอะไรออกมาเลยก่อนหน้านี้
ปล่อยให้คนป่วยหายใจพะงาบ ๆ แล้วค่อยบอก
ถ้าส่งสัญญาณเร็วกว่านี้
ทุกฝ่ายจะได้ตั้งรับได้ถูกต้อง
รู้ไหมว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่
และเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
นั่นคือที่มาของความตกใจเรื่องที่สองครับ
เพราะเศรษฐกิจไทยปีนี้หนักหนาสาหัสมาก
โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
เพิ่งคุยกับ “เจ้าสัวใหญ่” คนหนึ่งที่รู้เรื่องพืชผลการเกษตรและค้าปลีกเป็นอย่างดี
เขาบอกว่า “กำลังซื้อ” ในต่างจังหวัดย่ำแย่มาก
พูดเหมือน “เจ้าสัวสหพัฒน์” เลย
เพราะราคาพืชผลเกษตรตกต่ำมาหลายปี
ค่าเงินบาทก็แข็ง
การส่งออกลดต่ำลง
วันนี้เกษตรกรที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว
มาเจอ “ภัยแล้ง” กลางฤดูฝนเข้าอีก
จะพึ่งน้ำฝนจากธรรมชาติก็ไม่ตกลงมา
จะพึ่งน้ำจาก “เขื่อน” ก็ไม่ได้
เพราะปริมาตรน้ำในเขื่อนเหลือน้อยเต็มที
พืชผลที่ลงทุนไปก็ต้องปล่อยให้แห้งตาย
แบบนี้นึกไม่ออกเลยว่า “กำลังซื้อ”
ต่างจังหวัดจะเป็นอย่างไร
จากที่เข้าห้องไอซียูอยู่แล้ว
ถ้าอาการหนักขึ้นจาก “ภัยแล้ง” อีก
ไม่อยากนึกเลยว่า “คนป่วย” จะต้องย้ายไปอยู่ห้องไหน
หรือวัดไหน
นึกแล้วเศร้า
ครับ คนที่ทำธุรกิจคงต้องวางแผนใหม่
จะหวังปาฏิหาริย์จากกำลังซื้อในต่างจังหวัดไม่ได้แล้ว
เกษตรกรยังต้องพึ่งตัวเอง
นักธุรกิจก็คงต้องคิดแบบเดียวกัน
ใช้การตลาดแนวพุทธ
“อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” มาร์เก็ตติ้ง
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
หายใจไว้…หายใจไว้