เปิดประวัติ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พลังประชารัฐ โชว์จุดยืน 40 สส.โหวตเพื่อไทยตั้งรัฐบาลแบบไม่มีเงื่อนไข
วันที่ 11 สิงหาคม 2566 จากกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ว่า “พรรคพลังประชารัฐจะไม่ขาดแม้แต่คนเดียว เราจะมาทั้งหมด โดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อเสนออะไรทั้งนั้น”
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
เราเคยทำงานกับพรรคเพื่อไทยมา ผมก็เป็นเด็กเก่าพรรคเพื่อไทย เราเชื่อมั่นว่าจะทำได้ ผ่านวิกฤตทางการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ
“ที่สำคัญที่สุดก่อนหน้านี้ ตอนที่พรรคก้าวไกล เป็นคนเลือกนายกฯ ผมก็ได้รับการประสานจากพรรคก้าวไกลมา ว่าให้ช่วยโหวตได้ไหม ผมก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลก ก็วันนั้นเขาก็ประสานมาให้ช่วยโหวต วันนี้พวกเราก็พร้อมนะครับที่จะทำให้บ้านเมืองก้าวข้ามปัญหาตรงนี้ไป” นายไผ่กล่าว
เมื่อถามว่า การช่วยโหวตกับการร่วมรัฐบาล ยืนยันได้หรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นายไผ่กล่าวว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องนั้น การเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่เข้าร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องเล็ก
ประชาชาติธุรกิจพาไปรู้จัก “ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร พลังประชารัฐ ศิษย์เก่าเพื่อไทยให้มากยิ่งขึ้น
ประวัติ
ไผ่ ลิกค์ อายุ 45 ปี เกิดวันที่ 20 เมษายน 2521 เป็นลูกชายของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับนางปราณี โชติรัชต์กุล มีน้องชายคือ นายภูผา ลิกค์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไผ่ ลิกค์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อแรกสำเร็จการศึกษาได้กลับมาสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว แต่ด้วยความชอบเครื่องจักรและยานยนต์มาตั้งแต่เด็ก จึงได้เริ่มขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์ และเต็นท์รถมือสอง
ที่มาชื่อ ไผ่ วันพอยท์
ที่มาของชื่อ “ไผ่ วันพอยท์” ปรากฏชื่อเข้าร่วมแข่งขันอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตมากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นรายการแข่ง เซอร์กิต แดร๊ก และดริฟต์ หรือยิมคาน่า โดยนายไผ่เป็นหนึ่งในนักแข่งของทีมวันพอยท์ จึงเป็นที่มาของฉายาไผ่ วันพอยท์
เส้นทางการเมือง
หลังจากที่บิดาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองกลุ่มบ้านเลขที่ 111 จึงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในปี 2550 พรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาในปี 2554 ได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก โดยเอาชนะนายสุขวิชชาญ มุสิกุล บุตรชายนายปรีชา มุสิกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ และเข้าดำรงตำแหน่งในโฆษกคณะกรรมธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร
ต่อมาในปี 2561 ไผ่ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด