พท.-ปชป. เฟ้น “Next Gen” ชิงแต้มคนโซเชียล ชี้ขาดเกมเลือกตั้ง

ลกทุกวันนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี กลืนกินคนที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่เว้นแม้แต่คนที่อยู่ในสนามเลือกตั้งไทย ที่อนาคต โซเชียลมีเดียจะเป็นตัวตัดสินสำคัญ

พรรคสามัญประจำการเมือง อย่าง พรรคเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทยก็ขยับใช้กลยุทธ์รุกโซเชียลเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ เจาะกลุ่มฐานคนโซเชียล

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้สนามการเมืองเกิดความเซ็กซี่ มากกว่าการแข่งขันชิงอำนาจในการเมืองแบบโบราณอนุรักษ์แล้ว คือการที่แต่ละพรรคทยอยเปิดตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ หน้าใหม่ในสนามการเมือง อายุตั้งแต่ 25-40 ต้นๆ ที่มีดีกรีจบเมืองนอก เดินสายขายไอเดียความคิดใหม่ ๆ ของคนรุ่นใหม่

นับตั้งแต่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แท็กทีมกับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” พร้อมพวกเพื่อน 20 กว่าคน เป็น founder ก่อตั้ง พรรคอนาคตใหม่ และกระแสตอบรับอยู่ในแดนบวก

ภูมิทัศน์การเมืองที่มีแต่คนหน้าเก่าก็เปิดพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่ทันที

พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นหัวหน้า เข็น “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ์ หลานชายดีกรีนักเรียนออกซฟอร์ด สาขาปรัชญาการเมือง และเศรษฐศาสตร์ ลงแข่ง พร้อมประกาศตัวว่า เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ เปิดตัวครั้งแรก บนเวทีเสวนาการเมือง “วาระประเทศไทย” ที่จัดโดย “สุทธิชัย หยุ่น”

นับจากนั้น “ไอติม” ก็ถูกสปอตไลต์การเมืองบนโลกโซเชียลสาดส่องทันที

ชณะที่คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมตกขบวนปลุกปั้นโครงการอบรมการเมือง “Next Gen” ขึ้นมาในพรรค มีแกนนำคนรุ่นใหม่ชื่อว่า “สุรชาติ เทียนทอง” ลูกชายแท้ ๆ ของเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เรียนที่สหรัฐ ตั้งแต่ ม.ปลาย-ปริญญาตรี-โท ที่มหาวิทยาลัย จอห์นสันแอนด์เวลส์ สหรัฐอเมริกา

ส่วน “ตัวชูโรง” ที่พรรคเพื่อไทยเข็นออกมาสู้ “ไอติม” และ “เอก-ธนาธร” คือ “ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” ลูกชาย “เสริมศักดิ์-ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” ดีกรี เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถูกดันไปร่วมงานเสวนาการเมืองของคนรุ่นใหม่หลายเวที

“สุรชาติ เทียนทอง” กล่าวถึง “ธง” คนรุ่นใหม่ของเพื่อไทยว่า “สิ่งที่ต้องคิดคือ เราจะเรียกศรัทธาของประชาชนกลับมาอย่างไร สิ่งที่เสียไปมากที่สุดคือเสียศรัทธาจากประชาชน ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ว่ามากหรือน้อยเรียกหาอำนาจนอกระบบ ไม่ใช่ความผิดของประชาชน แต่พวกเรานักการเมืองเองหรือเปล่าที่ประชาชนเป็นแบบนั้น”

“ส่วนสิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือต้องให้สังคมอยู่ได้ในความแตกต่าง แล้วเรามานั่งดูว่าอะไรเห็นตรงกันไม่เห็นตรงกัน แล้วเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร”

“คนรุ่นใหม่” ของเพื่อไทย ไม่ใช่คนหน้าใหม่ซิง ๆ ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนประชาธิปัตย์-อนาคตใหม่ แต่เป็นคนที่เคยผ่านสนามเลือกตั้งมาแล้ว

“ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรค กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เรามีคนที่เข้ามาดำเนินการในพรรคเรามากพอสมควร ทั้งคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาให้เราแสดงออก หรือสามารถให้เราแสดงออกได้ วันนี้เรามีนักวิชาการ นักการเมืองรุ่นใหม่ ๆ จบ ป.เอก, ป.โท ความรู้ดี ๆ อยากจะลงมาสู่การเมือง เพื่อไทยก็มีไม่ต่างกัน ขอเวลาถ้าแสดงออกได้ก็พร้อมเปิดตัว

วันนี้จึงได้คนหน้าเดิม ๆ ไปแสดงออกตามเวทีต่าง ๆ ก่อน

“ถ้า พูดถึงคนรุ่นใหม่ ไม่ได้มองที่ตัวอายุ ตัววัย ตัวใบหน้า แต่ดูว่าคนเหล่านั้นมีความคิดที่เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหรือ ไม่ มีมโนทัศน์ใหม่ ๆ ที่ยอมรับเอาความคิดเห็นต่าง ๆ สามารถรวบรวมนำมาปรับใช้ให้ทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไหม สิ่งนี้ต่างหาก”

ภูมิธรรม บอกว่า คนหน้าใหม่เอี่ยม อาจดูคึกคัก กระฉับกระเฉง แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์ ส่วนคนที่เคยผ่านสนามการเมือง และพร้อมรับมโนทัศน์ใหม่ ๆ เมื่อเจออุปสรรคจะผ่านไปได้ดีกว่า

สนามการเมืองนับจากนี้ จะคึกคักไปด้วยคนหน้าใหม่-เป็นสงคราม Next Gen การเมือง ชิงแต้มชาวบ้านที่เบื่อนักการเมืองหน้าเดิม