ภูมิใจไทย ระทึก อนุฯ กกต.เรียก บุรีเจริญฯ แจงบริจาคเงินเข้าพรรค
วันที่ 19 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อ 17 มีนาคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นคำร้องต่อกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างเหตุว่า นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ มีพฤติการณ์เป็นนอมินีถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่นแทนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และทั้งนายศุภวัฒน์ หจก. บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ จำกัด
ได้มีการบริจาคเงินเข้าพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ปี 2561-2565 รวมจำนวนหลาย 10 ล้านบาท เงินบริจาคดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายขัดมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 นั้น มีรายงานว่าขณะนี้คำร้องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายทะเบียนพรรคการเมือง และอยู่ระหว่างการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ
โดยได้มีการเรียกตัวแทนของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่นมาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งหากการดำเนินการของอนุกรรมการฯเสร็จสิ้นแล้วก็จะมีการเสนอต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งถ้านายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าเป็นความผิดก็จะเสนอต่อที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเห็นว่าไม่ผิดก็จะมีคำสั่งยุติเรื่อง
ทั้งนี้ มาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดไว้ว่า ห้ามพรรคการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 7 ต่อ 1 ว่า นายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯ โดยมีนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นผู้ครอบครองหุ้นของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯและดูแลแทนผู้ถูกร้องมาโดยตลอด
สำหรับข้อเท็จจริงถึงการบริจาคเงินของนายศุภวัฒน์ให้กับพรรคภูมิใจไทยในระหว่างที่ผู้ถูกร้องเป็นเลขาธิการพรรค จากเอกสารของพรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่า นายศุภวัฒน์บริจาคเงินหรือทรัพย์สินประโยชน์อื่นให้พรรคในนามส่วนตัว มูลค่า 2,270,000 บาท และในปี 62 บริจาคในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯจำนวน 4,800,000 บาท และจำนวน 6,000,000 บาท ในปี 65
ซึ่งเป็นช่วงเวลาภายหลังผู้ถูกร้องโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์ในปี 61 แล้วไม่ปรากฏว่าช่วงเวลาก่อนโอนหุ้นนายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯเคยบริจาคเงิน ทรัพย์สินให้แก่พรรคภูมิใจไทยหรือมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใด ๆ กับพรรคมาก่อน
ประกอบกับที่นายศุภวัฒน์เบิกความว่า ก่อนที่ตนจะได้รับโอนหุ้นตนไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย กรณีมีข้อพิรุธสงสัยว่า นายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯไม่เคยมีความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย แต่ช่วงเวลาที่ผู้ถูกร้องโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์แล้ว นายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯกลับบริจาคเงินและทรัพย์สินให้กับพรรคการเมืองที่ผู้ถูกร้องเป็นเลขาฯพรรค