ทักษิณ ช่วย อุ๊งอิ๊ง จีบ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย  

นายกฯ ทักษิณ

ทักษิณเผยบนเวทีงานเลี้ยงที่โคราช จีบสุวัจน์เป็นกำลังสำคัญเข้าเพื่อไทย ยันแม้พรรคถูกยุบมาหลายครั้ง แต่ไม่ย่อท้อ จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ให้ได้

วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ที่ภัตราคารอาหาร เสียว เสี้ยว จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ปิดภัตราคาร 40 โต๊ะ กว่า 400 ที่นั่ง เลี้ยงตอนรับคณะของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โอกาสเยือน จ.นครราชสีมา ทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงร้านอาหาร นักร้องได้ร้องเพลง ’เกิดมาเป็นนักสู้‘ ที่เป็นเพลงที่นายทักษิณเคยร้อง จากแดนไกลตอนไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งระหว่างนั้นนายทักษิณได้ร้องตามไปด้วย

จากนั้นนายสุวัจน์ได้กล่าวตอนรับ โดยชมว่า จ.นครราชสีมาได้รับการพัฒนา โดยมาเป็นเมืองใหญ่ในทุกวันนี้ จาก 2 นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และนายทักษิณ แล้ววันนี้ก็ได้ฝากฝังสินค้าซอฟต์พาวเวอร์มากมาย ใน จ.นครราชสีมา เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้ช่วยผลักดันต่อ

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ได้มอบองค์หล่อจำลองย่าโม รุ่น 555 และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มอบพระชัยเมืองฯ รุ่น 197 ปี วัดศาลาลอย ต่อมาได้เปิดโอกาสให้บรรดา สส.รวมไปถึง สจ. และภาคเอกชน ได้มอบของดีเมืองโคราช ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ ของใช้ เช่น ผ้าไหมปักธงชัย และเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ที่ทั้ง 2 อย่างเป็นสินค้าที่ได้รับมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) รวมถึงกางเกงแมวโคราช

จากนั้นนายทักษิณกล่าวกับผู้ที่มาร่วมงานว่า วันนี้อบอุ่นที่ได้รับการต้อนรับและของที่ระลึกมากมาย ไม่ได้พูดนาน ถ้าพูดไม่เป็นจึงขอใช้หัวใจพูด วันนี้ขอชื่นชม ในเมืองมีระเบียบดี และทำให้คิดถึงครั้งแรกที่มากราบย่าโมตอนอายุ 16 เขาบอกว่าหากลอดประตูชุมพลจะได้กลับมาอีก นึกว่าจะไม่ได้กลับมา หายไป 18 ปีก็ได้มาใหม่ ที่ผ่านมาประเทศไทยเดินหน้าเศรษฐกิจทุนนิยมตามฝรั่ง ที่กำหนดเป็นเศรษฐกิจที่ขาดความเห็นใจ เพราะหลักของมันคือปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเร็วกินปลาช้า แต่คนบ้านนอกทั้งตัวเล็กและช้าจึงโดนกินมาตลอด เพราะเราบริหารโดยไม่เข้าใจพื้นฐานของคนที่ด้อยโอกาส

Advertisment

นายทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องคิดถึงคนส่วนใหญ่ มากกว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พรรคไทยรักไทยที่วันนี้กลายมาเป็นเพื่อไทยถูกยุบมา3 ครั้ง เราไม่เคยย่อท้อที่จะเดินหน้าเศรษฐกิจทุนนิยม ที่เห็นอกเห็นใจประชาชน เราต้องแก้ไขเศรษฐกิจครั้งนี้ให้ได้ แม้กลไกระบบราชการจะอุ้ยอ้าย แต่ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคนรักบ้านเมือง รักประชาชน แต่การจะจูงใจให้เข้าใจและค่อย ๆ ปรับยังไม่ดีพอ

และวันนี้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด เช่น เราพยายามทำอุตสาหกรรมที่มีกำไร 10-20% สุดท้ายไปบี้ค่าแรง คนยิ่งจนหนักเข้าไปใหญ่ ต่างประเทศทำกำไร 1,000-5,000 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่าแรงงานไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือสมอง ต้องหาคนสมองดีมาช่วยกัน บ้านเรามีคนสมองดีเยอะ แต่เหมือนมีดที่ไม่ได้ลับสนิมเลยเกาะ ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องให้โอกาส คำว่าโอกาสเป็นคำเดียวเท่านั้นที่จะพลิกฟื้นประเทศไทยได้ ถ้าสร้างโอกาสให้คนไทยไม่เป็นก็จะลำบากต่อไป

นายทักษิณกล่าวอีกว่า วันนี้ตนดีใจที่มาพบเพื่อน ๆ คนเก่าคนแก่ อย่างนายสุวัจน์รู้จักกันมาตั้งแต่พรรคปวงชนชาวไทย และนายสุวัจน์เป็นคนซื่อ และรักพล.อ.ชาติชายมาก รู้สึกว่าพรรคชาติพัฒนาเหมือนมรดกที่ต้องดูแลต่อ และทำให้ยังอยู่ที่พรรคชาติพัฒนา และอีกคนที่ต้องขอบคุณคือนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่วันนี้มีลูกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พ่อจึงต้องหลบไปก่อน นายวีระศักดิ์ทำการเมืองที่โคราช จนตนตกใจ ลูกหลานเป็น สส.กันหมด มีภรรยาเป็นนายก อบจ. ทำให้เห็นว่าเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก ถือเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า “เดี๋ยวนายสุวัจน์ก็จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย” ซึ่งทำให้เรียกเสียงฮือฮาของผู้ร่วมงาน จากนั้นนายทักษิณกล่าวต่อว่า ที่ตนพูด พูดแทนลูก เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ตนลิปซิงก์ เนื่องจากอายุน้อย ไม่กล้าชวนตรง ๆ เลยบอกให้พ่อลิปซิงก์ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาต้อนรับและมาทานข้าวด้วยกัน

Advertisment

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายทักษิณพูดชักชวนนายสุวัจน์บนเวที น.ส.แพทองธารที่นั่งอยู่ด้านล่างได้กระซิบว่า “ชวนหลังไมค์แล้ว”

โดยภายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ นายทักษิณได้เดินมาทักทายสื่อมวลชน พร้อมพูดแซวว่า “ทำไมยังไม่กลับบ้านกันอีก” เมื่อถามว่ากรณีที่จีบนายสุวัจน์ต้องยกขันหมากมาขอหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ผมพูดกับอากาศ” พร้อมยิ้ม

เมื่อถามถึงกำหนดการลงพื้นที่ภาคใต้และภาคอีสานจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่ายังไม่มีกำหนด ที่มา จ.นครราชสีมาเพราะมีงาน ถ้าไม่มีงานก็ไม่ไปไหน ส่วนที่จะไป จ.ปทุมธานี ก็เพราะไปงานบวช