ธนาธร : อนาคตใหม่ สร้างบ้านหลังใหม่ ล้มทุนผูกขาด – ปักธงประชาธิปไตย

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ “เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต” เปิด 12 นโยบายของพรรคอนาคตใหม่

“ธนาธร” เปรียบ 12 นโยบายเป็นบ้าน มีนโยบาย 3 รากฐาน – เสาหลัก 8 เสา – คาน และ หลังคา

“ธนาธร” เปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังหนึ่ง ในตอนที่ยุคพ่อแม่ตนเติบโตขึ้นมา เศรษฐกิจไทยแข่งขันกับเกาหลี ใต้หวัน ในยุคที่ตนเติบโตขึ้นมาแข่งกับมาเลเซีย จนถึงวันนี้ไม่ต้องบอกว่าผลการแข่งขันเป็นอย่างไร และลูกตนยังเล็กอยู่กำลังเติบโตขึ้นมา แข่งขันกับเวียดนาม และอินโดนีเซีย ลองคิดดูว่าในช่วงรุ่นแม่ตน รุ่นตน และรุ่นลูก ประเทศไทยถดถอยขนาดไหน ถ้าสังคมไทยเดินทิศทางที่เดินอยู่ 10 ปี เราคงแพ้เวียดนามกับอินโดนีเซียเป็นแน่

สังคมของเราที่มีความเหลื่อมล้ำมหาศาล ทรัพยากรของประเทศถูกใช้เพื่อความมั่งคั่งของคนไม่กี่คน คนจนไม่เคยได้เข้าถึงสวัสดิการที่ดีของรัฐ การศึกษาที่ดี อนาคตใหม่จะนำเสนอนโยบายที่คนไทยเท่าเทียมกัน และไทยเท่าทันโลก คือสังคมที่อยากเห็นในอีก 10 ปี เรากลับมามองถึงฐานคิด ที่จะผลิตนโยบายซึ่งฐานคิดดังกล่าวตั้งอยู่บนฐานคิด 1 ต้องการสร้างสังคมประชาธิปไตย 2.ประเทศที่กำลังพัฒนา และ 3.ประเทศที่มีปัญหาเฉพาะตัว จาก 3 ปัญหา เริ่มคิดนโยบายเพื่อนำไปสู่วิสัยทัศน์ของเราที่สังคมเท่าเทียม ไทยเท่าทันโลก

Advertisment

โครงสร้างของบ้านใหม่ที่ร้อยไทยเป็นหนึ่งเดียวที่พาไทยไปถึงวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้ นำเสนอบ้านหลังใหม่ที่นำไปสู่อนาคตที่สว่างไสว บ้านที่แข็งแรงต้องเริ่มจากรากฐาน คน ทรัพยากร และความรู้ คือปัจจัยที่กำหนดว่าสังคมไหน ยากดี มีจน จะพัฒนาไปในทิศทางไหนอย่างไร ด้วยความเร็วเท่าไหร่ ต้องเริ่มจัดการ 3 ปัญหาเหล่านี้

ด้านคน อนาคตใหม่เสนอไทยเท่าเทียม ผ่านการสร้างรัฐสวัสดิการ ภูมิปัญญาความรู้ เสนอให้ปฏิวัติการศึกษา สร้างโครงสร้างการศึกษา สร้างโรงเรียนในรูปแบบใหม่ ยุติระบบราชการรวมศูนย์ ให้ท้องถิ่นกำหนดอนาคตของตนเอง  ตอบโจทย์สร้างสังคมประชาธิปไตย ในประเทศที่กำลังพัฒนา ถ้าได้ 3 ฐานที่มั่นคง จะปลดปล่อยพันธนาการให้กับคนไทย ให้กับคนไทยให้เข้าสู่การศึกษาที่ดี มีสวัสดิภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถจัดการตนเองได้

ขณะที่เสานโยบาย 8 หลัก ที่มุ่งหน้าแก้ไขปัญหาเฉพาะตัวของสังคมไทย เสาตั้งขึ้นมา 1.ทำลายเศรษฐกิจผูกขาด 2,ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน 3.เกษตรกรก้าวหน้า 4.เศรษฐกิจดิจทัลเพื่อประชาชน 5.เปิดเผยข้อมูลรัฐกำจัดทุจริต 6.โอบรับความหลากหลาย 7.สิ่งแวดล้อมยั่งยืน 8.ปฏิรูปกองทัพ บ้านจะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่มีคาน หน้าที่ของคานคือยึดโยงเสาทุกต้นหั้งตระหง่านและรับน้ำหนักของหลังคา คานคือปักธงประชาธิปไตย นำมาสู่ส่วนที่เป็นหลังคา เพื่อให้สังคมไทยมุ่งไปสู่เท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก เป็นบ้านหลังใหม่ที่เสนอ

Advertisment

“นโยบายแต่ละตัวไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาแต่ละจุด หรือหวังเพื่อคะแนนเสียง แต่ออกแบบเพื่อร้อยรัดให้กัน แก้ปัญหาสังคมไทย นโยบายจึงมีลักษณะพลิกประเทศ เปลี่ยนแปลงประเทศ เพราะคิดเยอะกว่า คิดลึกกว่า คิดไกลกว่า และพร้อมชนต้นตอของปัญหามากกว่า”

“ธนาธร” เสนอนโยบายว่าการทำลายเศรษฐกิจผูกขาดในประเทศไทย ว่า แปลกใจว่าทำไมคนไทยทนอยู่กับทุนผูกขาดที่ปิดโอกาสการค้าการขายของบริษัทเล็กๆ กลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่กุมอำนาจอยู่ในเศรษฐกิจการเมือง ต้องการที่จะดึงประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้า รักษาอภิสิทธิ์เพื่อให้จะได้ประโยชน์ไปอีกนานเท่านาน  จึงเสนอ 4 นโยบาย การทลายทุนผูกขาด 1.ที่เกิดจากการสัมปทานผูกขาดของรัฐ ทีวี วิทยุ ดิวตี้ฟรี บริการสาธารณะต่างๆ ถ้าอนาคตใหม่เข้าไปมีอำนาจ จะจัดการประมูลให้โปร่งใส เพิ่มศักยภาพผู้ปะรกอบการรายใหม่ให้เข้ามาเป็นผู้เล่นใหม่ในตลาด ยกตัวอย่าง ดิวตี้ฟรีในสนามบิน ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในเดือนก.ย.2563 ถ้าอนาคตใหม่มีอำนาจจะเบรกสัญญาที่ให้ บริษัทๆ เดียวเป็นหลายๆ บล็อก เปิดให้ บริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็กมีส่วนในการประมูลด้วย

2 กลุ่มทุนบางกลุ่มไม่ได้ผูกขาดด้วยสัญญาสัมปทาน แต่ผูกขาดความมั่งคั่งด้วยกฎหมายบางฉบับเอื้อให้เกิดความผูกขาด กีดกัน เช่น อุตสาหกรรมเหล้าและเบียร์ กฎหมายระบุไว้ กำลังการผลิตอยู่ที่ 10 ล้านลิตรต่อปี ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลางต่อปีจะผลิตได้หรือไม่ กฎหมายพวกนี้แก้ได้ทันที 3.การเข้าถึงแหล่งทุนต้องถูกปลดปล่อย ประเทศไทยผูกขาดกลุ่มทุนมากที่สุดในโลก ชี้วัดด้วยธนาคาร อนาคตใหม่จะเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร โดยมีเงื่อนไขว่าใบอนุญาตจะต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ต้องการเห็นธนาคารเชียงใหม่ อุดรธานี ธนาคารในภูเก็ต จะสอดรับ กับการกระจายอำนาจ ท้องถิ่นจะมีทุนของตัวเอง ท้องถิ่นจะเกิดการจ้างงาน เปิดโอกาสให้นักลงทุนท้องถิ่นเข้าถึงแหล่งทุนได้

  1. จะบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีกฎหมายที่เขียนขึ้นมาป้องกันการฮั้วราคา แต่ไม่เคยบังคับใช้อย่างจริงจังตั้งแต่เขียนกฎหมายขึ้นมา คำตอบคือกลุ่มอภิสิทธิชนที่เป็นนายทุนผูกขาดมีอำนาจเหนือข้าราชการและการเมือง การบังคับใช้กฎหมายจึงไม่เกิดขึ้น เมื่อเรามีอำนาจพร้อมจะใช้กฎหมายฉบับนี้

“ธนาธร” กล่าวว่า หลายคนอาจมีคำถามว่าไม่ต้องการกลุ่มทุนขนาดใหญ่เหรอ ไม่ใช่ เราต้องการทุนใหญ่ แต่ไม่ต้องการกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ผูกขาดและหากินอยู่บนฐานภาษีของประชาชน แต่ต้องการทุนที่เป็นแถวหน้าของไทยแย่งชิงมูลค่าจากตลาดโลก เรียกว่าทุนก้าวหน้า ไม่ใช่ทุนที่ล้าหลังหามูลค่าเพิ่มกับกับประชาชน หามูลค่าเพิ่มกับตลาดในประเทศ ตลาดในประเทศถอยมา ไม่ต้องทำ เปิดพื้นที่ให้กับกิจการขนาดกลาง ขนาดเล็ก เมื่อกิจการขนาดกลาง ขนาดเล็กเข้มแข็ง ก็ส่งเสริมทุนขนาดใหญ่ก้าวไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ไม่ได้รังเกียจทุนขนาดใหญ่ แต่รังเกียจทุนขนาดใหญ่ที่หากินกับประชาชน หยุดเชิดชูกลุ่มทุนผูกขาดในประเทศไทย เป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มอภิสิทธิชนที่ผูกขาดอำนาจการเมือง เศรษฐกิจ เรียกร้องให้ปรับตัว เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดลกางและขนาดเล็กเติบโตขึ้นมา

“หลายคนถามว่าผมมาตั้งพรรคการเมืองทำไม ลูกสาวผมอายุ 8 ขวบ ลูกชายอายุ 3 ขวบ อยากให้เติบโตในสังคมที่ดี ผมไม่ต้องการให้พวกเขาอยู่ในสังคมที่ผมเติบโตขึ้นมา แน่นอนที่ผมเติบโตในบ้านที่มีทรัพยากรมากกว่าคนอื่น แต่ไม่วายที่ทุกครั้งเห็นความอยุติธรรม เห็นความยากจน สุดจะเกินไม่อยากให้เติบโตในสังคมแบบนี้ มีรัฐประหาร 13 ครั้ง ตลอดเวลา 86 ปี ประชาธิปไตย”

“ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรค กล่าวในส่วนที่เป็น “คาน – ปักธงประชาธิปไตย” ว่า การรัฐประหาร คือ วงจรอุบาทว์ ฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนใหม่ ให้พวกตนเองมาควบคุม แล้วก็ปล่อย พอคุมไม่ได้ ก็รัฐประหารอีก รัฐประหารซ้ำซาก อนาคตใหม่มีนโยบายยุติวงจรอุบาทว์นี้ 3 เรื่องคือ 1.ล้างมรดกบาป 2.เอาสิทธิและเสรีภาพประชาชนกลับคือมา 3.ป้องกันไม่ให้คณะทหารยึดอำนาจอีก ซึ่งตลอด 5 ปีที่คสช.เข้ามาออกคำสั่งมากมาย ที่มีผลไปถึงงชาติหน้า อนาคตใหม่จะทบทวนคำสั่งคสช. อันไหนพอใช้งานได้ ต้องเปลี่ยนรูปเป็นกฎหมาย คำสั่งคสช.ที่อยุติธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน ต้องถูกยกเลิกทันที ผู้เสียหายต้องได้รับการเยียวยา รัฐธรรมนูญ 2560 มาตราสุดท้าย 279 ที่ให้การใช้อำนาจของคสช. ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ถูกต้อง คำสั่งคสช.อยู่เหนือกฎหมายสูงสุด อนาคตใหม่จะยกเลิกมาตราสุดท้าย

“ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูป ต้องการให้เป็นโซ่ตรวนล็อกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากเป็นฝ่ายตรงข้ามจะถูกเล่นงาน แต่หากเป็นฝ่ายสืบทอดอำนาจทำอะไรก็จะถูก ส่วนกฎหมายที่ สนช.ซึ่ง คสช.แต่งตั้งผ่านอย่างรวดเร็ว ก็จะต้องถูกทบทวน มรดกรบาปสุดท้ายคือรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ทั้งกระบวนการไม่ชอบธรรมตามประชาธิปไตยเลย ผ่านประชามติแต่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล คนรณรงค์ฝ่ายต้านถูกดำเนินคดี ถูกจับ ทั้งยังมีม.44 อยู่ด้วย ซึ่งรัฐธรรมนูญ จะต้องทำให้ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยผ่านฉันทามติร่วมกัน จากการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อนาคตใหม่ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้สามารถ ทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งต้องผ่านการทำประชามติ จากนั้นจึงตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาจัดทำ แล้วทำประชามติอีกครั้ง รวม 2 ครั้ง”

นายปิยบุตร กล่าวถึง “ธง” การแก้รัฐธรรมนูญอันเป็น “ธงหลัก” ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยว่า

มีการแก้รัฐธรรมนูญ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร บทบัญญัติพิเศษ โดยผ่านประชามติ ให้การรัฐประหาร 2557 เป็นโมฆะ แล้วดำเนินการต่อผู้คณะรัฐประหารสามารถทำได้ทันที นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หลายประเทศทำสำเร็จมาแล้ว พร้อมทั้งกำหนดให้ประชาชนต่อต้านการรัฐประหารได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญต้องเปิดให้การดำเนินคดีกับคณะรัฐประหารไม่มีอายุความ แม้เสียงในสภาอย่างเดียวไม่พอ พรรคอนาคตใหม่จะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ให้สังคมไทยตระหนักว่า ไม่เอารัฐประหารอีกแล้ว จะทำงานความคิดเพื่อให้สังคมไทยบอกว่า พอกันทีการรัฐประหาร อนาคตใหม่ของประกาศว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง 2562 เมื่อไร เราจะรณรงค์กับภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคประชาชน แล้วเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที เพื่อเป็นฉันทามติจากทั้งสังคม ทั้งหมดคือความปกติให้สังคมไทย หยุดความสุขจอมปลอม อนาคตใหม่ขออาสาเป็นกองหน้าประชาธิปไตยตัวจริงที่จะเข้าไปยุติวงจรรัฐประหาร

นำมาสู่ส่วนสุดท้ายที่เป็น “หลังคา” คือ “คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก”