เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เป็นประธานการประชุมประธานคณะกรรมการปฏิรูป 13 ด้าน โดยกล่าวก่อนการประชุมว่า คณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้านต้องจัดทำหลักเกณฑ์ปฏิรูป เพื่อเสนอให้คณะกรรมการยุทธ์ศาสตร์ชาติพิจารณา คาดว่าจะเสนอได้ภายในวันที่ 13 กันยายนนี้ และคาดว่าแผนปฏิรูปทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน ปี 2561 ยืนยันแผนการปฏิรูปไม่มีพิมพ์เขียว ส่วนที่มีรายชื่อนักธุรกิจเข้ามาจะทำให้ไม่สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม หรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิรูปในทุกมติทุกด้าน เพราะคณะกรรมการฯของแต่ละชุดมีส่วนผสมของคนทุกรูปแบบ เพื่อทำงานให้เกิดความหลายหลากบูรณาการซึ่งกันและกัน
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขาคณะกรรมการปฏิรูป แถลงภายหลังการประชุมว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นขอบหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำแผนการปฏิรูป เพื่อวางเป็นกรอบหรือระเบียบในการทำงาน โดยหลังเกณฑ์ 1.การปฏิรูปต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มีวัตถุประสงค์ครอบคลุมในด้านต่างๆ 2.การปฏิรูปต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดเป้าหมายประเทศไว้ 20 ปี เพื่อให้รัฐบาลชุดต่อไปนำเป็นแนวทางในการปฏบัติ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายปรเมธีกล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศจะได้เบี้ยประชุมครั้งละ 6,000 บาท และไม่มีข้อกำหนดว่าในหนึ่งสัปดาห์จะสามารถประชุมได้กี่ครั้ง ทั้งนี้ คณะกรรมการปฏิรูป สามารถตั้งอนุกรรมการได้เฉพาะในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ส่วนอื่นๆ นั้นกฎหมายไม่อนุญาตให้แต่งตั้ง ยกเว้นจะมีความจำเป็นจริงๆ เพราะถือว่ากรรมการชุดนี้ได้รับการคัดเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมา ยังมีผลการศึกษาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่สามารถนำมาพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านอื่นๆ เพิ่มเติม แต่มีข้อสังเกตจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเห็นว่า บางประเด็นควรจะแยกออกมาเป็นกรรมการปฏิรูปได้ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ ผังเมือง เป็นต้น โดยรัฐบาลจะรับไว้พิจารณาต่อไป
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เปิดเผยว่า คาดว่าวันที่ 4 กันยายนนี้ จะนัดประชุมกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองนัดแรก แต่ยังไม่ระบุสถานที่ ทั้งนี้ แนวทางเบื้องต้นจะต้องนำผลการศึกษาที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านการเมืองมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการอื่นๆ โดยการทำงานจะต้องไม่นับหนึ่งใหม่แน่นอน
ที่มา : มติชนออนไลน์
