“วิษณุ” อุบ ข้อเสนอยุติข้อพิพาทปิดเหมืองทองอัครา หวั่น เสียรูปคดี

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อเสนอ 4 ข้อเพื่อยุติข้อพิพาทคดีพิพาทระหว่างรัฐบาลกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กรณีรัฐบาลในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้คำสั่งหัวหน้าคสช. ปิดเหมืองแร่ทองคำอัคราฯ ว่า ขอไม่ตอบ เพื่อประโยชน์ของรูปคดี ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ครม.รับทราบข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรมและจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงอุตสาหกรรมจะพิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อกลับมารายงานครม.อีกครั้งหนึ่ง

“ครม.ไม่ได้เลือกทางเลือกใดทั้งสิ้น ซึ่งมีการอภิปรายกันในที่ประชุมแต่ไม่มีข้อเสนอและไม่มีมติครม.ด้วย เพราะเป็นอำนาจของกระทรวงอุตสาหกรรม”

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลยังเดินหน้าสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการต่อไป ไม่ได้มีมติให้เจรจาเพื่อเกลี่ยไกล่ข้อพิพาทใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ครม.มีมติมานานแล้วให้เข้าสู่กระบวนการเจรจา แต่การประชุมครม.เมื่อวาน (29 ต.ค.) มีมติอย่างเดียวว่า รับทราบสถานการณ์ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงาน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเสนอ 4 ข้อของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.จ่ายเงินให้กับ บริษัท อัครา ฯ แล้วให้เลิกกิจการไป 2.ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท อัครา ฯ ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน 3.รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แล้วปฏิบัติตาม และ 4.หาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหาย แล้วให้ดำเนินกิจการต่อ

“กรณีข้อพิพาทดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรมได้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม.เป็นครั้งที่ 2 แต่ยังไม่มีข้อยุติ เพราะรัฐบาลยังสองจิตสองใจ ว่า จะเดินหน้าสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการจนถึงที่สุด หรือ จะเจรจาหาข้อยุติก่อนอนุญาโตตุลาการจะตัดสินในเร็ว ๆ นี้ เพราะถ้ารัฐเดินหน้าสู้คดีแล้วแพ้ขึ้นมาอาจจะต้องแพ้คดีทางแพ่งและรัฐบาลต้องชดใช้ค่าเสียหาย และเสียโอกาสให้บริษัทอัครา ฯ หลักหมื่นล้าน แต่ถ้าสามารถเจรจาได้อาจจะเสียเงินน้อยกว่า แต่จะหากรับข้อเสนอให้บริษัทอัครา ฯ เปิดเหมืองต่อ จะต้องรับความเสี่ยงทางการเมือง เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะรับผิดชอบเองนั้น จะรับผิดชอบอย่างไร ไม่ทราบ”แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม.กล่าว

Advertisment