ฝ่ายค้าน ปักหมุด ถล่ม 3 วัน ขุดที่ดิน-ภาษีบุหรี่-โรงขยะ ยำ ‘ทีมบิ๊กตู่’

พรรคฝ่ายค้านปักหมุดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขยับไปต้น ก.พ. 2563 จากเดิมที่จะให้จบกระบวนการตอนเดือน ม.ค. 2563

แต่เป้าหมายยังล็อกเป้าซักฟอกไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

ควบคู่อีกสอง คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (บิ๊กป๊อก) พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ (บิ๊กป้อม) อยู่ในข่าย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รวมถึง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ จองกฐินอภิปรายไว้ 3 วัน

แต่เฉพาะของเพื่อไทย ที่มี “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ เป็นหัวขบวน มีขุนพลผู้อภิปรายราว 10-15 คน

พร้อมทั้งตัดชื่อ “พล.อ.ประวิตร” ออกจากผู้ถูกซักฟอก เหลือแค่ 5 ชื่อ ปล่อยให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลับมีด

“สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเปิดหัวซักฟอก พุ่งเป้าไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์” โดยเฉพาะแผลเก่า ที่ถูกนำมาขุดใหม่

โดยเฉพาะเรื่องการซื้อขายที่ดินของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา ย่านบางบอนซอย 3 เนื้อที่ 50-3-08 ไร่ ให้กับบริษัทหนึ่งที่เป็นนอมินี ของเจ้าสัวคนดัง โยงถึงการแก้ไขสัญญาร่วมทุน รีโนเวต-ต่อสัญญาสัมปทาน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในยุครัฐบาล คสช.ได้ทำสัญญาใหม่ โดยไม่เปิดประมูล

ยังรวมถึงการซื้อขายที่ดินย่านบางนา-ตราด ซึ่งสำนักงานบังคับคดีสมุทรปราการ ประกาศขายทอดตลาดที่ดินของบริษัท เอคิว เอสเตท ของกลุ่มกฤดามหานคร จำนวน 214 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,114 ไร่

ซึ่งราคาประเมินเดิมตารางวาละ 1.2 หมื่นบาท แต่กลับขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมินเหลือตารางวาละ 4 พันบาทเท่านั้น และบริษัทที่ชนะการประมูลก็คือบริษัทร่วมทุน ของเจ้าสัวคนดังเช่นกัน

ซ้ำดาบสองด้วยความสามารถในการบริหารประเทศของ “พล.อ.ประยุทธ์” บุคคลที่อยู่ในข่ายที่ขึ้นอภิปราย เช่น ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.

ส่วน “วิษณุ” เกจิกฎหมายรัฐบาล กับ “ดอน” รมว.การต่างประเทศ เพื่อไทยล็อกเป้าไปที่ปมอื้อฉาว “บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส” ตามที่อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องดำเนินคดี 2 คดี 1.การนำเข้าบุหรี่จากประเทศฟิลิปปินส์ รวมราคาบุหรี่และค่าอากร 20,210,209,582.50 บาท

2.การเข้าไปล้วงลูกการดำเนินคดีของอัยการ เพื่อบรรเทาค่าเสียหายให้บริษัท “ฟิลลิป มอร์ริส” ถูกกล่าวหา
หลบเลี่ยงการเสียภาษีนำบุหรี่เข้ามาในประเทศกว่า 6.8 หมื่นล้าน ตัวอภิปรายหลักมี “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.มหาสารคาม

ส่วนด้านเศรษฐกิจ พุ่งเป้าไปที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ แน่นอนว่าต้องมีชื่อ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” จากพรรคเศรษฐกิจใหม่จองกฐินไว้ อีกทั้งยังใช้โอกาสนี้ให้มีที่ยืนในซีกฝ่ายค้าน หลัง 4 ส.ส.เศรษฐกิจใหม่ทอดสะพานไปยังพรรคซีกรัฐบาล

ยังมีคนอื่น ๆ ที่เรียงคิวซักฟอก อาทิ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ส.ส.กทม. สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ฯลฯ รวม 25 คน เป็นอย่างน้อย

เพื่อไทยเฉลยข้อสอบให้รัฐบาลเตรียมตัวตอบไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ด้าน “อนาคตใหม่” คัดดาวอภิปราย 10 คน แม้รายบุคคลที่จะซักฟอก ต้องรอหารือกับเพื่อไทย เพื่อไม่ให้
“ซ้ำซ้อน” แต่เบื้องต้นล็อกเป้า “พล.อ.อนุพงษ์” ไปที่การใช้จ่ายงบฯท้องถิ่น การออกเรื่องระเบียบค่าใช้จ่าย
พ.ศ. 2562 ที่เอารัดเอาเปรียบท้องถิ่น โดยการคุมค่าใช้จ่าย-การนำเข้าขยะจากต่างประเทศ โยงกับนักลงทุนจีนที่ได้รับอนุญาตให้ผู้ประกอบการเพียง 2 ราย ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าขยะ รวมถึงปมโรงไฟฟ้าขยะ

ปมโรงกำจัดขยะ-โรงไฟฟ้าขยะ เป็นเรื่องที่ “พล.อ.อนุพงษ์” ไม่อยากได้ยินตั้งแต่ยุค คสช. เพราะโยงถึงบุตรชาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยหาหลักฐานมานานอาจมีแท็กทีมระหว่าง เพื่อไทย-อนาคตใหม่

ปมซักฟอกของเพื่อไทย-อนาคตใหม่ขุดของเก่าในรัฐบาลทหาร คสช.มาเล่าใหม่ ท่ามกลางเสียงโต้แย้งฝ่ายรัฐบาลพลังประชารัฐว่า ไม่ควรขุดของเก่ามาเล่น

ด้าน “พรรคประชาชาติ” ที่มี “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรค เตรียมซักฟอกบุคคลในรัฐบาล 3 คน แต่ยังอุบชื่อ-รอเจรจากับเพื่อไทย เพื่อไม่ให้อภิปรายซ้ำซ้อน หวันรัฐบาลตีรวน

แต่ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาชาติยืนยันว่า เรื่องที่จะอภิปรายหนึ่ง คือ อภิปรายเรื่องการทำงาน ฝ่ายค้านสามารถอภิปรายการทำงานที่ต่อเนื่องกันมาได้จากรัฐบาล คสช. ไม่มีกติกาข้อห้ามอะไร

สอง เรื่องคือการอภิปรายพฤติกรรมของบุคคล เว้นแต่เคยมีการอภิปรายมาแล้ว ไม่ควรอภิปรายซ้ำอีก แต่รัฐบาลนี้ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว และยังไม่เคยถูกอภิปรายมาก่อน ดังนั้น เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับรัฐมนตรีสามารถพูดได้ ไม่มีรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับการประชุมสภาห้าม ประธานสภาเป็นผู้พิจารณา ถ้าไม่ซ้ำซากก็อภิปรายได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ที่ต่อเนื่องกันมา 5-6 ปี

กระนั้น ยังไม่นับคิวอภิปรายของ “เสรีรวมไทย” ของ “เพื่อชาติ” ที่เกาะขบวนอภิปรายไปด้วย อย่างไรก็ตาม เป้าฝ่ายค้านไม่หวังล้มรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” เพราะขณะนี้ไม่ได้มีสถานะเป็น “รัฐบาลปริ่มน้ำ” อีกต่อไป แต่ลอยเหนือน้ำมาพอสมควร

ซักฟอกคราวนี้ ฝ่ายค้านหวังแค่ทำให้รัฐบาล “ระคายผิว” เพราะข้อจำกัดที่ “ดาวอภิปราย” ของเพื่อไทยในอดีตถูกกันไว้วงนอก ไม่ได้เป็น ส.ส.

แม้ไม่เอาให้ถึงตาย แต่ก็ขอแค่ฉีกหน้ารัฐมนตรีบางรายให้เลือดซิบ ๆ หวังให้มนุษย์การเมืองในโซเชียลออกมารุมขย้ำ