วันนี้ (22 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า ประโยชน์ของการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี คือการทำงานร่วมกับภาคและจังหวัด ซึ่งก็ที่เปรียบเสมือนวงมโหรีปีพาทย์ ถึงแม้ว่าเราจะมีเครื่องดนตรีดีด สี ตี เป่า มีความหลากหลาย และต่างก็เล่นตามโน้ตของตัวเอง สรุปว่าทั้งวงก็ต้องบรรเลงในทำนองและจังหวะของเพลงนั้น จึงจะเป็นเสียงดนตรี ที่ไพเราะ และสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นคือได้มีโอกาสพบกับบรรดานักการเมือง จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีความยินดีที่มีการพบปะพูดคุยกัน นั่นคือเรียกว่า การปรองดอง คือไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเป็นพวกกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เรายังไม่ไปพูดถึงตรงนั้น เพียงแต่จะร่วมมือกันได้อย่างไรในวันหน้า เพราะว่าท่านเหล่านั้นก็เป็นนักการเมืองอาชีพอยู่ในกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินมาทุกพรรค เรายินดีที่จะพบปะพูดคุย เว้นแต่บางท่าน หรือบางพรรคไม่อยากคุยด้วยก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร พยายามที่จะลดข้อขัดแย้งที่หลายๆ คนเรียกร้อง ว่ารัฐบาลไม่พูดไม่คุย ไม่ฟังใคร ไม่ฟังนักการเมืองอะไร ตนก็ฟังพอฟังเสร็จก็หาว่าพยายามดึงมาเป็นพวกอีก ไม่ใช่ ดึงมาพูดคุยกัน เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อท่านเป็นนักการเมือง เข้ามาบริหารประเทศ จะเห็นว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รัฐบาลนี้ทำไว้ดีแล้ว น่าที่จะรับไปสานต่อ ให้สำเร็จ เพราะรัฐบาล คสช.ไม่สามารถจะทำให้สำเร็จได้ ในระยะเวลาอันสั้น
ที่มา มติชนออนไลน์
