“นฤมล” เปิดใจ มีความรู้ตลาดเงิน-ตลาดทุน แจงสี่เบี้ยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

วันที่ 29 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้เลือกตั้งหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค กก.บห.พรรค และมีการแถลงข่าวโดย นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคแถลงข่าวภารกิจของพรรคการเมือง ซึ่งภารกิจของพรรคการเมืองคือการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน

ซึ่งหัวหน้าพรรคท่านใหม่ของเรา (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) กำชับว่าเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ คือช่วงโควิด-19 แก้ปัญหาปากท้องประชาชนอย่างไร เรื่องที่ฝากมา ต้องทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีให้ได้ นายอนุชาจึงพูดต่อเนื่องไปว่าภารกิจแรกๆ ที่จะทำคือทำนโยบายที่ออกมาช่วยประชาชน เพราะเรามี ส.ส.ทุกภาคของประเทศ ส.ส.จะรับเรื่องของประชาชนและมีทีมงานของพรรคฝั่งวิชาการ ฝั่งภาคธุรกิจเอกชนมาช่วยเติมเต็ม ทีมที่ทำงานอยู่เดิมตั้งแต่ช่วงตั้งพรรคและทีมที่มาเสิรม เดิมทีตั้งแต่ตั้งพรรคก็อยู่ในทีมนโยบายอยู่แล้ว เลขาธิการพรรคก็ให้บอกว่า อาจารย์แหม่มรับผิดชอบต่อเท่านั้นเอง

“คงไม่ได้เรียกว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปอีก เพระเป็นเรื่องการทำนโยบายของพรรคทั้งหมด ตามที่เลขาธิการพรรคบอก เป็นเวทีหนึ่งที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เสนอแนะในด้านต่างๆ ตกผลึกเป็นนโยบายที่จะสะท้อนผ่านพรรคการเมืองไปที่นายกฯ และคณะรัฐบาล”

เมื่อถามว่า ท้อใจหรือไม่ เมื่อยังไม่ทันจะทำหน้าที่ก็มีกระแสในทางลบออกมาก่อนแล้ว นางนฤมลกล่าวว่า ไม่ค่ะ เป็นเรื่องปกติของการเมืองที่ต้องมีคนวิพากษ์วิจารณ์ อะไรที่นำมาปรับปรุงได้ก็นำมาปรับปรุง

ส่วนการรับตำแหน่งครั้งนี้เป็นการทำงานในส่วนของรัฐบาลด้วยหรือไม่นั้น เป็นคนละส่วนกัน เพราะเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ เท่านั้น ไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้เป็นอำนาจของท่านนายกฯ

เมื่อถามว่า เสียงวิจารณ์ทางลบออกมาเยอะ ทางหัวหน้าพรรคได้ให้กำลังใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า “ยังค่ะ ยังไม่คุยกันเลย”

เส้นทางที่เข้ามาช่วยงานให้รัฐบาล นางนฤมลกล่าวว่า จากประสบการณ์เดิมเป็นอาจารย์สอนด้านการเงิน นอกจากสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ถ้าสายงานวิชาการก็ทำจนเป็นศาสตราจารย์ นอกเหนือจากงานวิชาการ งานวิจัย ก็เป็นที่ปรึกษาตลาดหลักทรัพย์มา 10 กว่าปี ในฝั่งตลาดทุน เป็นที่ปรึกษาให้กับธนาคารหลายแห่งในฝั่งตลาดเงิน และช่วยภาคเอกชน ธุรกิจในส่วนที่เป็นกรรมการ เป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้ามาช่วยงานที่กระทรวงการคลัง

สามารถเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้ไหม โฆษกรัฐบาลตอบว่า คงไม่สามารถสรุปเช่นนั้น ถ้าถามว่าเราทำอะไรมาบ้าง ก็บอกว่าเราทำมาประมาณนี้ มีความรู้เรื่องตลาดทุนตลาดเงิน งานวิจัย งานด้านนโยบายที่เคยช่วยอยู่ที่กระทรวงการคลัง

คุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หรือไม่เพื่อให้ทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรค สอดคล้องกับรัฐบาล นางนฤมลกล่าวว่า ถ้านโยบายของพรรค พอดีอาจารย์สมคิดไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ที่ผ่านมาท่านก็เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ

จะเสนอนายกฯ อย่างเดียวไม่ได้ผ่านนายสมคิด หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพลังประชารัฐ กล่าวว่า คงจะผ่านทางพรรคไปแล้วแต่พรรคจะนำไปเสนอในช่องทางใด ก็เหมือนกับทุกพรรค เขาอาจมีเวทีในการนำเสนอกับประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่าจะนำเสนอแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะพรรคการเมือง แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มการเมืองที่ขณะนี้ก็นำเสนอต่อประชาชนว่าควรมีนโยบายอย่างไรที่จะช่วยประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง

ส่วนที่มีคนบอกว่ามีปัญหากับสมคิดนั้น นางนฤมลตอบว่า คงไม่มีปัญหากัน ยังทักทายและให้ความเคารพท่านมากเหมือนเดิม เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงของพรรคที่เกิดขึ้น อาจทำให้ถูกตีความในลักษณะนั้น

ขณะที่คุณสมบัติที่จะขยับเป็นรัฐมนตรี นางนฤมลบอกว่า “ต้องแล้วแต่นายกฯ” เมื่อถามว่าแล้วถ้าได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เป็นรัฐมนตรี เธอตอบว่า ก็แล้วแต่ท่านจะไว้ใจ ไม่กล้าพูดอย่างนั้น ไม่เคยพูดอะไรกับท่านเลยกับท่านนายกฯ ด้วยความสัจจริง คุยแต่เรื่องงาน เสาร์ – อาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านก็ให้ตามเรื่องคมนาคม ว่าไปถึงไหนแล้ว ท่านสนใจแต่เรื่องงานประชาสัมพันธ์ว่าทำอย่างไรให้เป็นรูปธรรม ไม่ได้คุยเรื่อง ครม.

เมื่อถามว่าความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานการเมือง โฆษกรัฐบาล ตอบทันทีว่า “ทำงานให้พี่น้องประชาชน คือเป้าหมายสำคัญ” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คาดหวังว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เธอตอบว่า ไม่ได้คาดหวังตั้งแต่เดินเข้ามาทางการเมือง