ลูกน้อง “ทักษิณ” ศิษย์ “ประชาธิปัตย์” ได้ดิบได้ดีใน “พลังประชารัฐ”

คำว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร” ใช้ได้ทุกยุคสมัย การเข้าสู่อำนาจ ต้องมีมิตรเทียมมิตรแท้ มิตรที่เคยเป็นศัตรู คอยเกื้อหนุน

เส้นทางการเมืองของนักเลือกตั้งอาชีพหลายคน จึงพลิก 180 องศา ตามทิศทาง-ลมการเมือง

เช่นเดียวกับตัวละครทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ที่วันนี้มีตำแหน่งอยู่ในทุกองคาพยพ อำนาจ ที่เคยหลุดตำแหน่งแบบฟ้าฝ่าเพราะการรัฐประหารในทศวรรษที่แล้ว แต่เวลานี้ทั้งตัวและหัวใจอยู่ในพลังประชารัฐ
เป็นไม้ค้ำยันการสืบทอดอำนาจ เป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ไต่ระดับเป็นถึงรัฐมนตรี ได้ดีทางการเมือง

ขั้วอำนาจในพรรคพลังประชารัฐตอนนี้ สามารถจำแนกสาแหรกทางการเมืองได้ใหญ่ ๆ 2 ขั้ว หนึ่งขั้วที่ออกจากทักษิณ (ไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย) และขั้วประชาธิปัตย์เดิม

กลุ่มที่เคยรุ่งเรืองในยุคทักษิณ และกลับมาได้ตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้งในยุคพลังประชารัฐ

คือ “กลุ่มสามมิตร” ภายใต้การนำอดีตขุนพลข้างกายทักษิณ ชื่อ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรมขนาบข้างด้วยลูกทีมคนสำคัญคือ “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

กลุ่มสามมิตร คือกลุ่มสำคัญที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ใช้คอนเน็กชั่น ผสมบารมีของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดึงมาร่วมกันตั้งพรรคพลังประชารัฐ ก่อนเดินสายกวาดต้อน “มิตรการเมือง” ในขั้วทักษิณให้สลับขั้วมาอยู่กับพลังประชารัฐ ลุยศึกเลือกตั้ง

ทั้งกลุ่มกำแพงเพชร ของ “วราเทพ รัตนากร” อดีต รมช.คลัง ในรัฐบาลทักษิณ มือหลักดูเรื่องงบประมาณแผ่นดินทั้งปี 2563-64 พ่วงลูกทีมย้ายข้างจากเพื่อไทย มาเป็น ส.ส.กำแพงเพชร ในนามพลังประชารัฐ ยกจังหวัด อนันต์ ผลอำนวย-ไผ่ ลิกค์-ปริญญา ฤกษ์หร่าย-ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ รวมถึง “สุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์” ส.ส.บัญชีรายชื่อพลังประชารัฐ ซึ่งเคยเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

กลุ่มต่อมา กลุ่ม “รัตนเศรษฐ” ที่หัวหน้าบ้านใหญ่ “วิรัช รัตนเศรษฐ” แห่งนครราชสีมา ได้มาเป็น ส.ส. และเป็นประธานวิปรัฐบาล และย้ายทั้งครอบครัว ทั้ง ทัศนียา นายอธิรัฐ และนายทวิรัฐ ลูกชาย โดย “อธิรัฐ” ตอนนี้ได้เป็น รมช.คมนาคม

ตามด้วยกลุ่มเพชรบูรณ์ ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ซึ่งพาลูกทีมกวาดที่นั่ง ส.ส.เพชรบูรณ์ “ยกจังหวัด”ประกอบด้วย นางสาวพิมพ์พร พรพฤติพันธุ์ นายจักรัตน์ พั้วช่วย นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ นายเอี่ยม ทองใจสด

กลุ่มเทียนทอง แม้ว่า “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง ตัวจะอยู่ในพรรคเพื่อไทย แต่หลาน 2 สองคน “ฐานิสร์ เทียนทอง-นางสาวตรีนุช เทียนทอง” ก็ย้ายข้ามขั้วมาเป็น ส.ส.พลังประชารัฐ

กลุ่มบ้านริมน้ำ “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส.ฉะเชิงเทรา ได้นั่งเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมพา “ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์” เข้ามาเป็น ส.ส.ฉะเชิงเทราอีกคน

นอกจากนี้ยังมีอดีตเครือข่าย “ทักษิณ” ที่ย้ายข้างแล้วยังได้เป็น ส.ส. อาทิ สุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ขณะที่เบอร์ใหญ่ ๆ ที่เคยอยู่ใต้ชายคาทักษิณ แยกพรรคสร้างดาวคนละดวง แล้วหวนคืนเป็นรัฐมนตรี เช่น อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข โดยเคยเป็น รมช.สาธารณสุขในรัฐบาลไทยรักไทย ส่วน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในอดีตเคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ส่วนตำแหน่ง “ข้าราชการการเมือง” ที่เป็นตำแหน่ง “เทกระโถน” มอบให้กับนักการเมืองย้ายค่ายจากเพื่อไทย แต่สอบตก อาทิ อำนวย คลังผา สุภรณ์ อัตถาวงศ์ พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ส่วนสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย แห่งอุบลราชธานี ย้ายค่ายจากเพื่อไทยมาอยู่พลังประชารัฐ ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค

ส่วนขั้วที่แตกตัวจากประชาธิปัตย์ หนีไม่พ้น ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่มานั่งเป็น รมว.ศึกษาธิการ เพิ่งถูกนักเรียนเลวล้อมวงเป่านกหวีดใส่ไปสด ๆ ร้อน ๆ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็น รมว.ดีอีเอส คนที่สลับค่ายมาพร้อมกันแต่มีตำแหน่งแห่งหนนอกรัฐบาลคือ “สกลธี ภัททิยกุล”อดีต ส.ส.กทม. ปัจจุบันเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเป็น กก.บห.พลังประชารัฐ

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ทิ้งประชาธิปัตย์ มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และคณะผู้จัดทำแผนฟื้นฟู

“ชาญวิทย์ วิภูศิริ” เคยสอบตกสนามกรุงเทพฯในนามประชาธิปัตย์ แต่บัดนี้ได้เป็น ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ
และเป็น กก.บห.พรรค สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 เมื่อก่อนเป็น ส.ส.ชลบุรี เขต 3 ประชาธิปัตย์ และเป็น กก.บห.พรรค

“อนุชา บูรพชัยศรี” อดีต ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ย้ายข้างมาได้รับตำแหน่งเป็นโฆษกรัฐบาลหมาด ๆ ส่วน “ทศพล เพ็งส้ม” แม้สอบตกในสนามเลือกตั้งนนทบุรี แต่ก็เป็นทีมกฎหมายพลังประชารัฐและเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ “ทวี สุระบาล” อดีต ส.ส.ตรัง 6 สมัยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในพื้นที่ภาคใต้ของพลังประชารัฐ “ชื่นชอบ คงอุดม” ซึ่งเคยเป็นส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ และตอนนี้เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

ได้ดิบได้ดีกันทุกคน-ทุกกลุ่ม