
นายกรัฐมนตรี ห่วงประชาชนออกมาชุมนุม เสี่ยงติดเชื้อโควิด ขู่ใช้กฏหมายจัดการม็อบ 24 มิถุนายน นี้
วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงการชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายนที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายกฯ มีความเป็นห่วงประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ก็หวังว่าประชาชนจะได้พิจารณาว่าการออกมาร่วมชุมนุมอาจจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เพราะคลัสเตอร์ต่าง ๆ ยังมีเกิดขึ้น จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาหลีกเลี่ยงการรวมตัว ทั้งนี้หากเกิดการกระทำความผิด ผ่านการชุมนุมลักษณะต่างๆ ก็คงจะต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่พิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มที่ประกาศการชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายนนั้น มี 5 กลุ่ม ตามการเปิดเผยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คือ
กลุ่มที่ 1 หมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดยนายชาติชาย ไพลิน นัดหมายรวมตัวที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินเพื่อจัดกิจกรรมลำลึก 89 ปี อภิวัฒน์สยาม 2475 นัดหมายเริ่มเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป
กลุ่มที่ 2 ประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ นัดหมายหน้าทำเนียบรัฐบาล วัตถุประสงค์เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกนัดหมายเวลา 12.00 น.
กลุ่มที่ 3 เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดยนายเจษฎา ศรีปลั่ง นัดหมายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เวลา 11.00 น. เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล
กลุ่มที่ 4 คนไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรมพันธ์ นัดหมายที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ยังไม่มีกำหนดเวลา
กลุ่มที่ 5 แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยพริษฐ์ ชิวารักษ์ นัดหมายทำกิจกรรมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ แต่ยังไม่กำหนดสถานที่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมว่า เนื่องจากขณะนี้เขต กทม.เป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่หรือกระทำการดังกล่าวเป็นการยุยงไม่ให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
หากผู้ใดฝ่าฝืนรวมทั้งผู้จัดการชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุมจะเป็นความผิดตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 ธ.ค.63 ข้อ 3 ประกอบกับประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 5 มี.ค.64
สำหรับผู้ชักชวนให้มีการรวมตัวกันทำกิจกรรมใดๆ จะมีความผิดในส่วนของผู้สนับสนุนจะต้องรับโทษเช่นเดียวกัน ในกรณีผู้จัดเวที เครื่องเสียงอุปกรณ์ต่างๆ เป็นความผิดฐานให้การสนับสนุนจะต้องรับโทษตามกฎหมาบเช่นเดียวกัน
ขอเน้นย้ำฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้กรุงเทพฯและพื้นที่อื่นของประเทศไทยยังมีสถานการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นความเดือดร้อนของประชนเป็นลำดับแรก และการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯยังมีอัตราที่สูง ผู้ชุมนุมนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดทำให้สถานกาณ์การแพร่ระบาดลุกลามมากยิ่งขึ้น
ย้ำเตือนผู้จะมาร่วมชุมนุมให้ละเว้นการกระทำดังกล่าว อยากวิงวอนผู้ชุมนุมการมาชุมนุมหรือจัดกิจกรรมทางการเมืองช่วงนี้ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ท่านอาจได้ผลประโยชน์จากการชุมนุมทางการเมืองแต่ประเทศชาติบอบช้ำ ขอให้สถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปก่อนค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า”