ไทยสร้างไทย ชี้ซ่อมเศรษฐกิจปี’65 ยาก แนะ พักต้น พักดอก เติมทุน SMEs

ไทยสร้างไทย ชี้ซ่อมสร้างเศรษฐกิจปี 2565 ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แนะรัฐบาลเข็นมาตรการ พักต้น พักดอก เติมทุน เสริมสภาพคล่อง SMEs

วันที่ 4 มกราคม 2565 นายนพดล มังกรชัย กรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายรณกาจ ชินสำราญ คณะกรรมการอำนวยการ และพัฒนาพรรคไทยสร้างไทย ร่วมกันแถลงภาพรวมเศรษฐกิจปี 2565 ทั้งนี้ นายนพดล กล่าวว่า เส้นทางการซ่อมสร้างเศรษฐกิจของไทยในปีใหม่ 2565 จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบที่ใช้เวลาสั้น ๆ ในการแก้ไข อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอ้างเนื่องในโอกาสปีใหม่กับประชาชนที่ผ่านมา

นพดล มังกรชัย
นพดล มังกรชัย

หากแต่จะเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามที่ประชาชนทุกคนจะต้องร่วมกันฝ่าฟันให้ก้าวพ้นออกไปให้ได้
โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน จากผลกระทบการระบาดของโควิดโอไมครอน ที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความรุนแรงหรือวิธีการป้องกัน แต่มีการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว

ซึ่งที่ผ่านมาการจะกลับเข้าสู่สภาวะก่อนการแพร่ระบาดของโรค ต้องระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรและเงินในการใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ทั้งมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการป้องกันโควิด จึงทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

แต่กลับส่งผลให้ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงขึ้น และคาดว่าสถานการณ์การว่างงานของแรงงานไทยช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีผู้ว่างงานกว่า 2 ล้านคน ในขณะที่มีบัณฑิต นักเรียนระดับอาชีวศึกษา (ปวช.-ปวส.) จบการศึกษาแต่ละปีกว่า 8 แสนราย หากยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาการว่างงานก็จะยิ่งก่อตัวเป็นปัญหาที่กระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Advertisment

“จึงอยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการจับคู่งาน (Job Matching) กับนายจ้าง ผู้ประกอบการ Micro SMEs และกิจการขนาดใหญ่ จะช่วยสร้างโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งงาน Part time-Full time โดยรวบรวม platform จัดหางานของภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วย โดยต้องมีกลไกการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทักษะ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับ SMEs เพื่อให้การพัฒนาควบคู่กันไปทั้งผู้ประกอบการและแรงงาน” นายนพดลกล่าว

นายนพดล กล่าวว่า ประเด็นต่อมาคือ SMEs ไทย จะสูญพันธุ์ไปหมด หากไม่เร่งแก้ไขปัญหา แม้ว่าภาครัฐได้มีมาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือ SMEs แต่การเข้าถึงความช่วยเหลือยังไม่สามารถทำให้ SMEs เข้าถึงได้โดยง่าย ทำให้ SMEs จำนวนมากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการภาครัฐ อาทิ มาตรการ Soft loan 1 ที่มี SME เข้าถึงเพียง 77,787 ราย วงเงิน 138,200 ล้านบาท

อีกทั้ง SMEs ส่วนใหญ่ที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในกลุ่มรายย่อยและรายย่อมจำนวนมาก แต่การปล่อย Soft loan 1 ที่ผ่านมา SMEs กลุ่มดังกล่าวได้รับวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท เพียง 25% ของวงเงินที่ปล่อยทั้งหมด 138,200 ล้านบาท ที่เหลือ 75% เป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีขนาดใหญ่

“รัฐต้องเร่งออกมาตรการมา พักต้น-พักดอก-เติมทุน ให้ SMEs มีชีวิตรอดสามารถไปต่อได้ โดยไม่คิดดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาการพักต้น และยืดระยะเวลาการชำระออกไป รวมทั้งไม่ติดเครดิตบูโร เพื่อลดผลกระทบในระยะยาวและนำไปสู่การเป็นหนี้เสีย ต้องช่วยบรรเทาภาระหนี้ และสร้างสภาพคล่องชั่วคราวให้กับ Micro SMEs รายเล็กรายย่อยที่ไม่ได้รับ Soft Loan ลอต 1 และ 2 และได้รับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐ อาทิ กลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร สปา ธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว อาชีพอิสระต่างๆ เป็นต้น“ นายนพดลกล่าว

Advertisment

ด้านนายรณกาจ กล่าวว่า สถานการณ์โอไมครอน ยังมีความไม่แน่นอนของมาตรการป้องกัน และมีข่าวการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาประกาศว่าได้ทำการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 100 ล้านโดส แต่ประชาชนฉีดวัคซีนที่ป้องกันโอไมครอนไม่ได้อยู่เกิน 50% ของทั้งหมดที่ฉีดไป

รณกาจ ชินสำราญ
รณกาจ ชินสำราญ

และระยะการฉีดเข็มแรกเกินครึ่งปีแล้ว ทำให้ภูมิลดน้อยลงหรือบางส่วนหมดไปแล้ว รวมถึงเข็ม 3 ที่กระตุ้น ก็ยังฉีดได้เพียงแค่ 6 ล้านโดส จากประชากรทั้งหมดเกือบ 70 ล้านคน (กทม 1.5 ล้านโดส จากประชากรรวมประชากรแฝงเกือบ 10 ล้าน) จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 90% ของ GDP ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด ทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงเพิ่มขึ้นทะลุ 14 ล้านล้านบาทสูงสุดในรอบ 18 ปี

คนเมื่อมีหนี้มากขึ้น การใช้จ่ายก็ทำได้น้อยลง เงินที่ได้มาเอาไปจ่ายหนี้ก่อน ไม่สามารถเอามาใช้จ่ายในระบบได้ ทำให้กำลังซื้อขาดแคลนต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงที่จะเกิด NPL (หนี้สูญ)ในสัดส่วนที่มากด้วย พรรคไทยสร้างไทย จึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้มีการจัดตั้ง กองทุนเพื่อคนตัวเล็ก (กองทุนเครดิตประชาชน)

“เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้เป็นที่พึ่งของประชาชนคนตัวเล็ก ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบปกติของธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ เป็นสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันดอกเบี้ยตํ่า เพื่อนําไปใช้ในการประกอบอาชีพ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมของประชาชนคนตัวเล็ก และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทําให้สามารถลืมตาอ้าปากใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี” นายรณกาจกล่าว